จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๔๐

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๔๐…

…กาลเวลาแห่งชีวิตที่เราลิขิตได้…

…ห่างเหินใช่เหินห่าง
ระยะทางนั้นยาวไกล
สัญจรร่อนเร่ไป
สู่สิ่งใหม่ในหนทาง

…มีพบย่อมมีจาก
กรรมจำพรากให้เหินห่าง
วางใจให้เป็นกลาง
ทุกสิ่งอย่างจะเข้าใจ

…เข้าใจในชีวิต
เมื่อตั้งจิตคิดแบบใหม่
ผ่านมาให้แล้วไป
ตั้งต้นใหม่ใจมั่นคง

…ทางเดินของชีวิต
อยู่ที่จิตคิดนำส่ง
ศรัทธาต้องยืนยง
และมั่นคงในหลักการ

…จังหวะและเวลา
โอกาสมาอย่าให้ผ่าน
คิดต่อก่อเป็นงาน
เพื่อสืบสานจินตนา

…ทุกคนย่อมมีฝัน
อยากพบวันปรารถนา
ก้าวผ่านกาลเวลา
เรียนรู้ค่าประสพการ

…ฝันไว้ไปให้ถึง
คิดคำนึงตามหลักฐาน
ก้าวไปในสายธาร
แม้นยาวนานอย่าท้อใจ

…รางวัลของชีวิต
ผ่านถูกผิดอยู่ร่ำไป
สิ่งหวังและตั้งใจ
คงไม่ไกลถ้ายังเดิน

…เดินไปในทางฝัน
จิตสร้างสรรค์น่าสรรเสริญ
ทำใจให้เพลิดเพลิน
ความเจริญจะตามมา

…คิดดีและทำดี
ในสิ่งที่มีเนื้อหา
เชื่อมั่นและศรัทธา
ความก้าวหน้าจะมาเอง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๔…

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๙

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๙…

๐ โลกธรรม นำมา ซึ่งความทุกข์
อยากจะสุข จึงดิ้นรน และขวนขวาย
เพื่อโอ้อวด แข่งขันไป ให้มากมาย
บทสุดท้าย ก็คือกฎ อนิจจัง

๐ ทั้งลาภยศ สรรเสริญ เพลินในสุข
ทำให้ทุกข์ ตามมา ในภายหลัง
เมื่อเสื่อมยศ เสื่อมลาภ ให้ล้มพัง
มีคนชัง ไม่สรรเสริญ และเยินยอ

๐ กินกามเกียรติ กอบโกย จึงโหยหา
ให้ได้มา ในสิ่ง ที่ร้องขอ
เพราะความที่ อยากได้ ไม่รู้พอ
จึงเกิดก่อ ความทุกข์ ไม่สุขใจ

๐ ความสำเร็จ ของชีวิต ที่คิดหา
คือทรัพย์สิน เงินตรา นั้นหาไม่
ความสำเร็จ ของชีวิต อยู่ที่ใจ
บอกว่าพอ เมื่อไหร่ ก็ใช่เลย

๐ เมื่อมุ่งหวัง มาเป็น สมณะ
เพื่อลดละ ทุกสิ่ง ไม่นิ่งเฉย
ทั้งอัตตา ตัวตน ที่คุ้นเคย
กิเลสเอย ตัณหาเอย ควรละวาง

๐ อยู่กันแบบ พอเพียง ก็เพียงพอ
การร้องขอ เกินไป ออกให้ห่าง
เดินตามธรรม มีธรรม เป็นแนวทาง
ตามแบบอย่าง พระอาจารย์ ท่านทำมา

๐ ทำให้ดู อยู่ให้เห็น เป็นตัวอย่าง
ท่านได้สร้าง แบบไว้ ให้ศึกษา
ตามหลักธรรม ขององค์ พระสัมมา
ใช้ปัญญา มีสติ และตริตรอง

๐ ทำสิ่งใด ให้รู้ อยู่แก่จิต
ถูกหรือผิด สิ่งใด ใจเศร้าหมอง
เดินตามธรรม นำทาง ตามครรลอง
ให้ถูกต้อง ตามธรรม พระสัมมา…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๔…

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๘

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๘…

๐ มองอะไร มองไป ให้ทุกด้าน
ธรรมประสาน ในจิต เพื่อคิดใหม่
มองทั้งดี ทั้งร้าย คู่กันไป
มองโดยใช้ เหตุผล เป็นต้นทุน

๐ ใช้เหตุผล หักล้าง ในทางก่อ
แล้วเติมต่อ ใช้ธรรมะ มาเกื้อหนุน
ละความชอบ ส่วนตัว ที่เจือจุน
คิดถึงบุญ กุศล เป็นหนทาง

๐ สมเด็จโต กล่าวไว้ ในครั้งก่อน
ท่านได้สอน ให้มอง ทั้งสองอย่าง
เอากระจก หกด้าน เป็นแนวทาง
มองทุกอย่าง ให้เห็น ความเป็นจริง

๐ เมื่อเห็นธรรม เข้าใจธรรม จงทำต่อ
ธรรมนั้นหนอ จะประสาน ในทุกสิ่ง
สัจธรรม นั้นหรือ คือความจริง
สรรพสิ่ง คือธรรม ที่นำทาง

๐ มองทุกสิ่ง เป็นธรรม นำความคิด
ทั้งถูกผิด ให้เห็น เป็นแบบอย่าง
มองให้เห็น มองให้รอบ ไปทุกทาง
มองทุกอย่าง โดยสติ แล้วตริตรอง

๐ ในโลกนี้ มีทั้งมืด และสว่าง
ทั้งสองอย่าง คิดไว้ ในสมอง
ก่อนจะทำ ควรคิด และตริตรอง
อย่าได้ลอง ทำไป ใช้อารมณ์

๐ จงครวญคิด พินิจ และศึกษา
ไตร่ตรองมา ให้เห็น เป็นเหมาะสม
อย่าทำไป ด้วยว่า ค่านิยม
จงชื่นชม คุณธรรม ทำให้ดี

๐ ตามจังหวะ เวลา และโอกาส
อย่าประมาท ทำไป ให้ถูกที่
ถูกบุคคล ถูกสถาน ถูกวิธี
จงทำดี ให้ถูกดี จงมีธรรม…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๔…

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๗

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๗…

…หลากหลายกิจที่ทำก็เพื่อสงเคราะห์โลกและธรรม สิ่งเหล่านั้นไม่ผิดต่อธรรมวินัย เป็นไปโดยชอบ ประกอบด้วยกุศล สร้างคน สร้างงาน สร้างจิตสำนึก ประสานโลกและธรรมให้ก้าวเดินไปด้วยกัน

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๗”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๖

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๖…

…สิ่งที่รู้ สิ่งที่เห็น อาจไม่เป็นอย่างใจคิด…

…ที่เห็น และเข้าใจ
อาจไม่ใช่ สิ่งที่คิด
เห็นถูก หรือเห็นผิด
ใครตัดสิน ในปัญหา

…ความรู้ ความเข้าใจ
ที่มันได้ เกิดขึ้นมา
โดยธรรม หรืออัตตา
หรือรู้เห็น ตามเป็นจริง

…ความรู้ และเข้าใจ
ที่มีใน สรรพสิ่ง
รู้จริง และเห็นจริง
เกิดจากเหตุ และปัจจัย

…สิ่งรู้ และสิ่งเห็น
สิ่งที่เป็น เกิดขึ้นใหม่
ถูกผิด เป็นอย่างไร
พิสูจน์ได้ โดยหลักธรรม

…ปรับจิต เข้าหาหลัก
โดยรู้จัก จดและจำ
ปรับใจ เข้าหาธรรม
ในการคิด และวิจารณ์

…สงเคราะห์ อนุเคราะห์
ให้มันเหมาะ กับเหตุการณ์
ธรรมะ จะประสาน
ไปในทิศ ทางเดียวกัน

…เป็นเหตุ เป็นปัจจัย
คล้อยตามไป สมานฉันท์
ไม่มี ขัดแย้งกัน
นั้นคือธรรม ที่ถูกทาง

…ปรับจิต เข้าหาธรรม
แล้วน้อมนำ ทุกสิ่งอย่าง
เทียบดู ในแนวทาง
จะรู้เห็น เป็นอย่างไร

…ธรรมะ ทุกหมวดหมู่
สงเคราะห์ดู ให้เข้าใจ
รู้เห็น เป็นเช่นไร
อนุเคราะห์ สงเคราะห์กัน…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๔…

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๕

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๕…

…หลากหลายกิจที่ทำก็เพื่อสงเคราะห์โลกและธรรม สิ่งเหล่านั้นไม่ผิดต่อธรรมวินัย เป็นไปโดยชอบ ประกอบด้วยกุศล สร้างคน สร้างงาน สร้างจิตสำนึก ประสานโลกและธรรมให้ก้าวเดินไปด้วยกัน

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๕”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๔

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๔…

…หลายหลากเรื่องราวที่ต้องพบเจอล้วนแล้วแต่กรรมนั้นนำพา ทั้งที่เป็นกุศลกรรม ซึ่งส่งผลในทางที่ดีหรืออกุศลกรรมที่ส่งผลในทางที่แย่แต่เมื่อยอมรับกับมันได้โดยไม่หวั่นไหวมันก็ไม่มีผลอะไรกับเรา…

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๔”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๓

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๓…

…สิ่งที่รู้ ที่เห็นและเป็นไป ที่เกิดจากการปฏิบัติธรรมเจริญสติภาวนานั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกขณะ ด้วยหลายเหตุและปัจจัย แปรเปลี่ยนไปตามกำลังของสติสัมปชัญญะและกำลังของสมาธิสิ่งที่เรียกว่า “นิมิต”เกิดขึ้นจากกำลังของสมาธิ ในช่วงที่สตินั้นอ่อนกำลัง

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๓”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๒

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๒…

…สรรพสิ่งตั้งอยู่กฎของพระไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เกิดขึ้น ตั้งอยู่แล้วดับไป ความไม่เที่ยงแท้แน่นอนย่อมนำมาซึ่งความทุกข์ ถ้าหากเรานั้นเข้าไปยึดถือ คาดหวัง จริงจังกับสิ่งนั้นจนเกินไป เพราะทุกอย่างนั้นย่อมแปรเปลี่ยนไป ตามจังหวะ เวลา โอกาสสถานที่และตัวบุคคล ตามเหตุและปัจจัยในขณะนั้น เพราะว่าสรรพสิ่ง “มันเป็นเช่นนั้นเอง”…

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๒”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๑

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๑…

…“ชีวิตคือการทำงานและการทำงานคือการปฏิบัติธรรม” คือคำสอนของหลวงพ่อพุทธทาส แห่งสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฏร์ธานี นำมาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต ปรับใช้ให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของตัวเรา เพราะชีวิตต้องดำเนินไปทั้งในทางโลกและทางธรรม เพื่อประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน เพื่อความเจริญในธรรม…

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๓๑”