ปรารภธรรมในยามเย็นหลังเสร็จกิจ

…ปรารภธรรมในยามเย็นหลังเสร็จกิจ…

…อย่าไปหวั่นไหวกับกระแสโลกจนเกินไปคืออย่าไปยินดี ยินร้ายกับคำสรรเสริญและคำนินทา ความสุขหรือความทุกข์ และลาภยศทั้งหลายอย่าไปหวั่นไหวกับมัน เพราะว่าความหวั่นไหวนั้น มันจะทำให้เราขาดความเชื่อมั่นและศรัทธาในตนเอง เรียกว่าเป็นคนไม่แน่นอน ทำอะไรไม่แน่นอน จิตนั้นย่อมทุรนทุรายหวั่นไหวไปกับโลกธรรม นำมาซึ่งความทุกข์ทั้งหลาย ถ้าเราวางใจให้อยู่เหนือโลกธรรมได้เมื่อไร ใจของเรานั้นก็จะเป็นสุข…

…การเผยแผ่ธรรมะนั้น สิ่งที่สำคัญคือการทำอย่างไร ที่จะให้เขาเข้ามาหาเรา ซึ่งต้องใช้หลักจิตวิทยามองหาความชอบพื้นฐานของแต่ละบุคคลนำเสนอในสิ่งที่เขามีความชอบอันประกอบด้วยกุศล สร้างความคุ้นเคยเพื่อลดความกดดัน ความรู้สึกแปลกแยกและแตกต่างระหว่างกันออกไป ไม่ไปยัดเหยียดธรรม ให้เขาปฏิบัติ ในขณะที่เขานั้นยังไม่พร้อม

…น้อมนำธรรมที่เหมาะสมมานำเสนอแก่เขา แสวงหาจุดร่วม สงวนจุดต่างไม่เข้าไปลบล้างพฤติกรรมเก่า ๆ ของเขาในทันที เพราะมันจะทำให้มีแรงต่อต้านจึงต้องใช้ระยะเวลาในการละลายพฤติกรรมเก่าของเขาเหล่านั้นที่เคยเป็นมา จึงต้องใช้เวลาและความอดทนในการสอนให้เขารู้ธรรมตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคลโดยใช้กุศโลบายธรรมที่แตกต่างกัน…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *