…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๑๔…
…อย่าลุอำนาจแก่ความโกรธเป็นอันขาด เพราะเมื่อความโกรธนั้นเกิดขึ้นแล้วมันจะมืดมิดปิดบังปัญญา คิดแต่จะเอาชนะเพียงอย่างเดียว ทั้งที่จริงแล้วมันกำลังแพ้ตัวเอง แพ้ความโกรธของตัวเองถ้าระงับความโกรธไม่ได้ ใจก็ไม่เป็นสุขเพราะฉะนั้นอย่าเอาความโกรธ มาเป็นอารมณ์มาเป็นตัวของตัวเป็นอันขาดพึงข่มความโกรธ ด้วยการเจริญสติการลดทิฏฐิ การให้อภัย แล้วใจของเรานั้นจะสบาย…
…ผู้เจริญย่อมไม่เบียดเบียนใครไม่อาฆาตใคร ไม่พยาบาทใคร ให้อภัยแก่คนทุกจำพวก เจริญเมตตาจิตเป็นมิตรกับคนและสัตว์ทั้งหลายไม่เอาเรื่องเอาราวกับใคร ใจพร้อมที่จะให้อภัยอยู่เสมอ วางใจได้อย่างนี้ใจเราก็จะมีแต่ความสุข ไม่มีความทุกข์เพราะการให้อภัย…
…ถ้าจิตใจเศร้าโศกไม่เบิกบานร่าเริงแล้วความเป็นมงคลทั้งหลายก็จะหายไปหมดแต่ถ้าจิตใจไม่เศร้าโศก มีแต่ความร่าเริงแจ่มใส เกษมสำราญ ความเป็นมงคลทั้งหลายก็จะปรากฏขึ้น ดั่งคำที่ว่า “จิตดี กายเด่นจิตด้อย กายดับ” เมื่อจิตใจเป็นกุศลความเป็นมงคลทั้งหลายก็จะเกิดขึ้น…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒ ธันวาคม ๒๕๖๔…