…เมื่อจิตระลึกถึงธรรม…
…ชีวิตดำเนินไปตามปกติ ทำกิจวัตรของสงฆ์ ไปตามปกติที่เคยกระทำมาเสร็จจากกิจวัตรของสงฆ์ ก็มาปฏิบัติกิจวัตรของการเป็นผู้นำของหมู่คณะคือการตรวจตราดูแลเรื่องการก่อสร้างดูความเรียบร้อยในอาวาสที่อยู่อาศัยจดบันทึกทำบัญชีรับ-จ่ายในแต่ละวันคิดโครงการวางแผนงานที่จะทำต่อไปนี่คืองานในทางโลก
…ส่วนงานในทางธรรมก็คือการเจริญสติภาวนา ตามจังหวะเวลาและโอกาสที่สามารถจะทำได้ ใช้เวลาที่ผ่านไปกับการทำงาน ยามว่างภารกิจ ผ่อนคลายด้วยการเขียนบทความ บทกวีธรรมเพราะถือว่าการทำงานนั้น้เป็นการปฏิบัติธรรม เป็นการฝึกเจริญสติฝึกควบคุมความรู้สึกและอารมณ์กับสิ่งกระทบทั้งหลาย เพราะว่าการทำงานนั้น ต้องมีความสัมพันธ์กับหมู่คณะ ต้องพบปะพูดคุยและทำงานร่วมกัน หลายคนก็หลายความคิดและแตกต่างกันด้วยจิตและอารมณ์ ทำให้ต้องควบคุมตนเองให้มากขึ้น
…ต้องมีสติระลึกรู้ก่อนที่จะพูดและทำเพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันทั้งทางกายและทางจิตกับผู้ร่วมงานการทำงานนั้นก็กลายเป็นการปฏิบัติธรรมไปในตัว เพราะว่าเราต้องอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริง ต้องพบปะกับผู้คน ต้องทำงาน ต้องทำกิจเพื่อเลี้ยงชีวิตตามอัตภาพของสงฆ์ ไม่ใช่จะมีเวลา นั่งหลับตาภาวนาเพียงอย่างเดียวหรือไม่พบปะกับผู้คนเลย เราต้องอยู่ร่วมกับผู้คนในสังคมที่หลายหลากนี้คือความเป็นจริงของชีวิต…
…การทำงานคือการปฏิบัติธรรม…
๐ จงทำงาน ทุกชนิด ด้วยจิตว่าง
คือละวาง อัตตา และทิฐิ
เพื่อวางแผน ก่อนงาน การเริ่มริ
ด้วยการตริ การตรอง มองดูงาน
๐ การทำงาน ต้องประสาน สรรพสิ่ง
ให้เป็นจริง ไปได้ ทุกสถาน
ให้เหมาะสม กับปัจจัย และเหตุการณ์
การทำงาน คือการ ประพฤติธรรม
๐ คือการเอา หลักธรรม นำความคิด
และฝึกจิต ฝึกใจ ไม่ใฝ่ต่ำ
จงอย่าให้ อัตตา เข้าครอบงำ
จงน้อมนำ เอาธรรมะ เป็นแนวทาง
๐ โลกกับธรรม นั้นอยู่ เป็นคู่กัน
จงจัดสรร เอาธรรม เป็นแบบอย่าง
อยู่กับโลก จงเดิน ในสายกลาง
คือเส้นทาง ที่พอเหมาะ และพอควร
๐ ความพอดี พอเพียง เลี้ยงชีวิต
รู้ถูกผิด ชั่วดี นั้นมีส่วน
ทำในสิ่ง ที่ดี และที่ควร
ทุกสิ่งล้วน สัมพันธ์ กันสืบมา
๐ ทั้งทางโลก ทางธรรม นำประสาน
ในชีวิต การงาน แก้ปัญหา
ใช้สติ สมาธิ และปัญญา
ละอัตตา วางใจ ให้เป็นกลาง
๐ จงอย่าเอา ตัวเรา มาเป็นใหญ่
ทำอะไร ควรคิด ด้วยจิตว่าง
ตัวทิฐิ มานะ ควรละวาง
มองทุกอย่าง เป็นธรรมะ ละอัตตา
๐ อยู่กับโลก กับธรรม นำชีวิต
อยู่กับจิต ความคิด แสวงหา
ความใฝ่ดี ใฝ่รู้ สู่ปัญญา
จะนำพา ชีวิต จิตเจริญ…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒ กรกฎาคม ๒๕๖๕…