ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๙๔

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๙๔…

“ ความพยายามพวกเธอต้องทำเอาเอง ตถาคตเป็นเพียงผู้ชี้บอกเท่านั้น ”

“ ตุมฺเหหิ กิจฺ อาตปฺปํ อกฺขาตาโร ตถาคตา ”
…พุทธภาษิต ธรรมบท ๒๕/๔๓…

…การขึ้นกรรมฐาน สมาทานกรรมฐานนั้น ก็เพื่อเป็นการให้สัจจะอธิษฐานแก่ตัวเราเองว่าเราจะกระทำในสิ่งที่เราได้กล่าวปฏิญาณสมาทานไว้ให้สำเร็จ เราจะไม่ทอดทิ้งธุระเราจะไม่ละความพยายาม เราจะทำตามที่เราได้กล่าวไว้ เป็นการให้สัจจะแก่ตัวเอง

…ซึ่งถ้าเราทำได้ในสิ่งที่เรากล่าวไว้นั้นก็จะเป็นการเพิ่มพูนบารมีทั้งสิบประการคือ ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมะบารมีปัญญาบารมี วิริยะบารมี ขันติบารมีสัจจะบารมี อธิษฐานบารมี เมตตาบารมีอุเบกขาบารมี ได้ครบทั้งสิบประการในครั้งเดียวกัน…

…วันเวลา ผ่านไป ให้ครวญคิด
ถึงชีวิต ของเรา ที่ก้าวย่าง
ว่าเป็นไป ถูกทิศ และถูกทาง
หรือออกห่าง จากกุศล หนทางดี

…ไม่มีใคร รู้ซึ้ง เท่าหนึ่งจิต
สิ่งที่คิด ที่ทำ ในทุกที่
เท่ากับตัว ของเรา นั้นรู้ดี
ในสิ่งที่ เราทำ กรรมของเรา

…ดีหรือชั่ว รู้ตัว อยู่แก่จิต
ที่พลาดผิด เพราะจิต นั้นโง่เขลา
เพราะกิเลส ครอบงำ ให้มึนเมา
ทำให้เรา พลาดผิด คิดไม่เป็น

…เห็นกงจักร เป็นดอกบัว เพราะตัวหลง
ไม่มั่นคง ในธรรม อย่างที่เห็น
ไม่แยกแยะ ดีชั่ว ที่ควรเป็น
เพราะไม่เห็น กิเลสใน ใจตนเอง

…เพราะความโลภ ความรัก ความมักมาก
และความอยาก มีกำลัง เข้าข่มเหง
หลงทำบาป หยาบช้า ไม่กลัวเกรง
จนตัวเอง ออกห่าง เส้นทางธรรม

…เมื่อไม่มี ธรรมะ คุ้มครองจิต
ก็พลาดผิด ชีวิต จึงตกต่ำ
ก้าวหลงไป ในเส้นทาง ที่มืดดำ
ก่อเวรกรรม ทำชีวิต ให้ผิดทาง

…สังคมโลก วันนี้ มีให้เห็น
สังคมเป็น เช่นนี้ มีแบบอย่าง
สังคมเสื่อม เพราะคน นั้นหลงทาง
คนออกห่าง จากธรรม กรรมของคน…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๕…