…รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๖๒…
…พระพุทธพจน์…
…เหตุ ๖ ประการเหล่านี้คือ
– การนอนตื่นสาย ๑
– การเสพภรรยาผู้อื่น ๑
– การผูกเวร ๑
– ความเป็นผู้ทำแต่สิ่งอันหาประโยชน์มิได้ ๑
– มิตรชั่ว ๑
– ความเป็นผู้ตระหนี่เหนียวแน่น ๑
ย่อมกำจัดบุรุษเสียจากประโยชน์ที่จะพึงได้พึงถึง…
…(ที.ปาฏิ.๑๘๕ )…
…ธรรมทั้งหลายทั้งปวงนั้น เป็นสภาวะแห่งปัตจัตตัง รู้ได้เฉพาะตนโดยการปฏิบัติ การศึกษาปริยัติ การอ่าน การฟังนั้นเป็นเพียงขั้นพื้นฐาน เป็นเพียงการเก็บข้อมูลหาแนวทาง หาแบบอย่างที่จะนำไปปฏิบัติ
…เพียงแต่ฟัง เพียงแต่อ่าน เพียงแต่คิดจิตนั้นยังไม่ถือว่าเข้าถึงธรรม จำได้พูดได้และเข้าใจ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงความคิด เป็นเพียงนามธรรม เป็นเพียงความฝัน เป็นเพียงจินตนาการ…
…วันเวลาที่ผ่านมาได้สร้างคุณค่าให้ชีวิตแล้วหรือยัง…
…ทำให้ดู อยู่ให้เห็น เป็นตัวอย่าง
เป็นแนวทาง วางไว้ ให้ศึกษา
ตามสติ กำลัง และเวลา
ผลออกมา อย่างไร อย่าไปกลัว
…ทำหน้าที่ ของตน ให้ถูกต้อง
เปลี่ยนมุมมอง พินิจ คิดให้ทั่ว
รักษาจิต รักษาใจ ไม่เมามัว
สิ่งที่ชั่ว สิ่งที่ผิด ไม่คิดทำ
…มีสติ ระลึกรู้ อยู่ทั่วพร้อม
และไม่น้อม นำจิต คิดใฝ่ต่ำ
สิ่งไม่ดี ทั้งหลาย อย่าไปทำ
อย่าถลำ ในทางชั่ว ด้วยมัวเมา
…จงมีความ ละอายใจ ในสิ่งผิด
ไม่ควรคิด ปรุงแต่ง อย่างโง่เขลา
ทำร่างกาย จิตใจ ให้โล่งเบา
จงเก็บเอา แต่สิ่งดี ที่มีคุณ
…จงภูมิใจ ในสิ่งดี ที่ได้สร้าง
บนหนทาง ผ่านมา ได้เกื้อหนุน
จงมีใจ เมตตา เกื้อการุน
จงสร้างบุญ สิ่งกุศล บนหนทาง
…ทำชีวิต วันนี้ ให้มีค่า
วันข้างหน้า อาจไม่มี ที่จะสร้าง
ชีวิตนี้ อาจไม่ยาว อย่างที่วาง
จงรีบสร้าง รีบทำ กรรมที่ดี
…สร้างคุณค่า ราคา ให้ชีวิต
นั่นคือกิจ ที่ต้องทำ ในวันนี้
บุญกุศล คือหนทาง สร้างความดี
ชีวิตนี้ คุณมี แล้วหรือยัง
…จงทบทวน ชีวิต ที่ผ่านมา
สร้างคุณค่า อะไร ไว้เบื้องหลัง
สิ่งเหล่านี้ คุณนั้นมี แล้วหรือยัง
มองกลับหลัง ดูว่าตรง หรือหลงทาง….
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๒ พฤษภาคม ๒๕๖๕…