…รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๖๔…
…มันเป็นวิบากกรรมของชีวิตที่คิดจะหลีกเลี่ยงก็ไม่เป็นผลเหตุการณ์มันบังคับให้ต้องกระทำเพื่อสงเคราะห์อนุเคราะห์ต่อเพื่อนมนุษย์ พิธีกรรมทางไสยศาสตร์ อำนาจของจิตพลังลึกลับของธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ควรศึกษาและเรียนรู้ แต่ไม่ควรเข้าไปยึดถือหรือเข้าไปหลงใหลรู้ เห็น เข้าใจ ทำได้ แต่ไม่ไปยึดติดทุกสิ่งล้วนเป็นประสพการของชีวิตเป็นกำไรของชีวิต พรสวรรค์หรืออุปนิสัย เป็นของที่ลอกเลียนแบบกันไม่ได้ เกิดจากวาสนาและบารมีที่สั่งสมกันมาจงใช้เวลาของชีวิตที่เหลืออยู่ มาเรียนรู้ชีวิตที่เป็นจริงทุกสิ่งที่ผ่านมา คือมายาของชีวิตที่ลิขิตไปตามแรงแห่งกิเลสตัณหาเป็นโลกมายาของกิเลส พระไตรลักษณ์คือความเป็นจริงของชีวิต
…คำครูบาอาจารย์ที่ท่านกล่าวสอนไว้ยังเตือนสติอยู่เสมอไปไม่เคยหลงลืมคำนั้นคือ…ธรรมะทั้งหลายทั้งปวงคุณก็รู้และเข้าใจมาหมดแล้วยังเหลือเพียงอย่างเดียว คือคุณยังไม่ได้ทำ ถ้าคุณยังไม่ลงมือกระทำคุณก็เหมือนใบลานเปล่า เป็นได้เพียงนักประชาสัมพันธ์ หาใช่ผู้ปฏิบัติธรรมไม่คำสอนนั้นยังฝังใจมาจนทุกวันนี้แม้เวลาจะผ่านยี่สิบกว่าปี คำสอนนี้ศิษย์ยังจำและทำตาม สอนคนอื่นมามากแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องสอนตัวเราเองบ้าง คำพูดและคำสอนมันย้อนกลับมาสู่ตัวเรา เราเป็นห่วงผู้อื่นจนเกินไป ทำให้ลืมดูตัวเราเองมองแต่ข้างนอกมองแต่ข้างหน้าลืมหันมาดูปัจจุบันที่เรากำลังเป็นอยู่
…ดูหนัง ดูละคร แล้วจงย้อนมาดูตัวเรา….
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕…