…รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๖๖…
…เป็นเวลาผ่านไปสิบสามปีกว่าแล้วที่ได้กลับมาเขียนบทความบทกวีซึ่งมีผลงานที่ได้เขียนไว้มากมายหลายพันบท ทั้งที่เป็นบทความและบทกวี ซึ่งผลงานที่ผ่านมานั้นผู้เขียนไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ เพียงเพื่อจะถ่ายทอดความรู้สึกคิดและมุมมองเผยแผ่ธรรมะออกไป ซึ่งธรรมะทั้งหลายนั้นไม่มีใครเป็นเจ้าของเป็นของที่อยู่คู่กับธรรมชาติ คู่โลกกันมา เพียงแต่การใช้ภาษานั้นอาจจะแตกต่างกันในสำนวนและลีลา แต่เนื้อหาและความหมายต่างก็ไปในทิศทางเดียวกัน คือการสร้างสรรค์ให้โลกใบนี้นั้นสงบและร่มเย็น ชี้ให้เห็นคุณและโทษของกิเลสทั้งหลาย เป็นไปเพื่อความจางคลายในทิฐิมานะและอัตตาตัณหาและอุปาทานธรรมะนั้นจึงไม่ควรมีการสงวนลิขสิทธิ์ยึดถือมาเป็นของผู้ใดแต่ผู้เดียวทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับความรู้สึกนึกคิดและจิตสำนึกของแต่ละคนที่จะแสวงหาผลประโยชน์จากธรรมะนั้น…
…รอยทางที่ย่างผ่านบนกาลเวลา…
…มองหา ก็มองเห็น
ซึ่งความเป็น ในโลกนี้
หลายหลาก และมากมี
ได้พบเห็น เป็นประจำ
…เห็นแล้ว เก็บมาคิด
มาพินิจ ให้เห็นธรรม
ก่อเกิด กุศลกรรม
รู้เข้าใจ ในความจริง
…ทุกสิ่ง นั้นเคลื่อนไหว
แปรเปลี่ยนไป ในทุกสิ่ง
ไม่เคย จะหยุดนิ่ง
ล้วนเกิดดับ ธรรมดา
…เกิดขึ้น แล้วตั้งอยู่
มองให้รู้ เห็นปัญหา
ใช้จิต ใช้ปัญญา
มองทุกอย่าง ว่างอัตตา
…วางจิต ให้เป็นกลาง
จะไม่สร้าง ซึ่งปัญหา
ลดละ ในอัตตา
เดินตามธรรม ดำเนินไป
…มองหา ทั้งสองด้าน
มองให้ผ่าน สู่ข้างใน
ดีชั่ว จงดูไป
มองให้เห็น ทั้งสองทาง
…ทั้งโทษ และทั้งคุณ
มองและหมุน หาช่องว่าง
รู้แล้ว ก็ละวาง
จิตเข้าใจ ก็เห็นธรรม
…ดีชั่ว ใครกำหนด
หรือเป็นกฎ ผลของกรรม
สิ่งคิด และสิ่งทำ
ล้วนใจเรา กำหนดมา
…ทุกอย่าง เริ่มจากจิต
จากความคิด ส่งออกมา
จึงเกิด เป็นปัญหา
เพิ่มกิเลส ให้แก่ตน
…เพ่งโทษ ผู้อื่นเขา
เท่ากับเอา มาปะปน
กิเลส ในใจตน
เป็นทบเท่า ทวีคูณ
…มองหา ก็มองเห็น
มองให้เป็น สิ่งดับสูญ
อย่าเอา มาเพิ่มพูน
จงปล่อยปละ และละวาง
…วางใจ และวางจิต
จงอย่าคิด จิตเข้าข้าง
มองหา ในเส้นทาง
สู่สงบ และร่มเย็น
…สงบ สยบได้
สิ่งเคลื่อนไหว ในที่เห็น
วางใจ วางจิตเป็น
ใจสงบ เมื่อพบธรรม…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕…