…รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๖๗…
…การเป็นพระภิกษุตามธรรมวินัยนั้นต้องมีความเคารพกันด้วยคุณวุฒิและวัยวุฒิ สามารถที่จะว่ากล่าวตักเตือนกันได้โดยธรรมวินัย มีความอ่อนน้อมถ่อมตน เพื่อเป็นการลดมานะละทิฏฐิเป็นผู้ใฝ่ศึกษาหาความรู้ เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติตามธรรมวินัย เป็นผู้มีจิตอาสาไม่นิ่งดูดาย ขวนขวายเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนจนเกินไป มีน้ำในต่อหมู่คณะ คือธรรมที่นำมาซึ่งความรักสามัคคี…
๐ เพราะอ่อนน้อม ถ่อมตน คนจึงชอบ
และประกอบ เมตตา มาประสาน
ไม่เย่อหยิ่ง ถือตน จนเสียการ
จงร่วมงาน ทำไป ด้วยใจเรา
๐ ผูกไมตรี สร้างมิตร ผูกจิตไว้
มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือเขา
และจงเป็น ผู้ให้ อย่าหวังเอา
ช่วยแบ่งเบา ช่วยเขา อย่างเต็มใจ
๐ อ่อนเมื่อพบ ลมแรง อย่าแข็งขืน
น้อมแล้วยืน ขึ้นสู้ สู่สิ่งใหม่
ถ่อมลงหา ผู้คน อย่างเต็มใจ
ตนควรมี ความหมาย ต่อผู้คน
๐ สร้างประโยชน์ แก่ตน และคนอื่น
ปลุกให้ตื่น ขึ้นมา หาเหตุผล
เพื่อให้เป็น ประโยชน์ท่าน ประโยชน์ตน
ให้ทุกคน ได้รับ โดยทั่วกัน
๐ การถือตัว ถือตน คนไม่ชอบ
เพราะประกอบ ด้วยทิฐิ คนหยามหยัน
ไม่ได้สร้าง ไมตรีจิต มิตรสัมพันธ์
อยู่ร่วมกัน ควรรัก สามัคคี
๐ หมั่นประชุม ร่วมกัน อยู่เนืองนิจ
ร่วมทำกิจ กันไป ในทุกที่
ร่วมสรรค์สร้าง เส้นทาง สู่ความดี
รสร้างไมตรี ผูกมิตร สนิทกัน
๐ สิ่งที่จะ ผูกใจ ในหมู่มิตร
คือรวมจิต รวมใจ สมานฉันท์
มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือกัน
การแบ่งปัน การให้ ได้ใจคน
๐ อย่าได้เพียง ร้องขอ ต่อผู้อื่น
จงหยิบยื่น ยามเขา นั้นขัดสน
ให้เขาพ้น จากทุกข์ ทั่วทุกคน
ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน ควรกระทำ…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕…