…รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๒๑…
…ในการทำงานนั้น ย่อมมีการประสพกับอุปสรรคปัญหามากบ้างน้อยบ้างตามกำลังบุญกุศลของแต่ละคนที่ได้ทำมา ไม่มีใครจะหนีพ้นอุปสรรคปัญหาไปได้ แต่ในอุปสรรคและปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น ย่อมที่จะมีทางแก้ไขได้ในทุกปัญหา ถ้าหากใช้สติปัญญาความรู้สึกนึกคิดและจิตที่เป็นกลางไม่เข้าข้างความคิดที่ติดอยู่กับผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง มองทุกอย่างด้วยใจที่เป็นกลาง ค้นหาเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดเป็นอุปสรรคปัญหามองให้เห็นที่มาและองค์ประกอบในสิ่งเหล่านั้น ที่ทำให้มันเป็นไปทำความรู้และความเข้าใจในปัญหาละวางอัตตา เปิดใจให้กว้าง ยอมลดละและสละบางสิ่งบางอย่าง ไม่เข้าข้างความคิดเห็นและผลประโยชน์ฝ่ายตนจนเกินไป ปัญหาทุกอย่างนั้นย่อมจะแก้ไขได้เสมอ
…ถ้าใจของเรานั้นยอมรับในความเป็นจริง ในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหลายอย่าเอาความอยากทั้งหลายของเรานั้นไปกำหนดให้มันเป็นไปเพราะทุกสิ่งอย่างนั้นอยู่ภายใต้เงื่อนไขของพระไตรลักษณ์ เป็นไปตามหลักแห่งความเป็น อนิจจัง ทุกขังอนัตตา เกิดขึ้นมา ตั้งอยู่แล้วดับไปไม่มีสิ่งใดที่จะไม่แปรเปลี่ยน มันเป็นกฎของธรรมชาติทั้งหลาย
…เมื่อใจนั้นยอมรับซึ่งความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหลาย ว่าเรานั้นเป็นผู้กระทำ มันเป็นผลแห่งวิบากกรรมที่เรานั้นได้เคยกระทำมา ไม่โทษดินโทษฟ้า หาผู้รับผิดมาแทนเรา ใจนั้นก็จะโปร่งเบา เพราะได้วางจากการยึดถือทั้งหลาย ความทุกข์ที่มีนั้นก็จะคลาย และเมื่อใจสบาย ความคิดนั้นก็จะโปร่งโล่งเบาเพราะว่าเข้าใจในปัญหาที่เป็นอุปสรรคทั้งหลาย และเมื่อทำใจยอมรับได้ซึ่งความเป็นจริงอุปสรรคปัญหาในทุกสิ่งนั้นย่อมจะมีหนทางที่จะแก้ไขได้เสมอ อยู่ที่ว่าเรานั้นจะทำใจยอมรับกับความจริงได้แล้วหรือยัง…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๒ มีนาคม ๒๕๖๕…