…ทบทวนเรื่องราว มาเล่าให้ฟัง…
…ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาปักกรดอยู่ในพื้นที่ของวัดลาดเค้า (ร้าง) สิ่งที่ได้เน้นย้ำกับพระภิกษุที่มาอยู่ช่วยบูรณะวัดร้างคืออย่าทิ้งข้อวัตรปฏิบัติที่เคยทำกันมา บิณฑบาต กวาดลานวัด ทำวัตรสวดมนต์ นั่งสมาธิ แผ่เมตตา อุทิศบุญกุศลให้สรรพวิญญาณทั้งหลาย สรรพสัตว์ทั้งหลาย เทวดาทั้งหลาย ตลอดถึงอดีตเจ้าอาวาสทั้งหลายที่เคยอยู่ ณ อาวาสแห่งนี้
…ประกาศเจตนารมณ์แห่งการเข้ามาขออยู่อาศัยในพื้นที่ เพื่อที่จะบูรณะวัดร้างแห่งนี้ให้กลับมาเป็นวัดที่สมบูรณ์ขึ้นใหม่อีกครั้ง ซึ่งตลอดเวลาสามปีที่ผ่านมาแล้วนั้น พระภิกษุที่ได้มาเข้ามาอยู่เพื่อช่วยบูรณะวัดร้างได้ปฏิบัติกันมาไม่เคยขาด จึงทำให้การบูรณะวัดร้างเจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ดั่งที่ได้เห็นและเป็นอยู่…
๐ อยู่ท่ามกลาง แมกไม้ ในไพรพฤกษ์
มาเพื่อฝึก ทบทวน กระบวนใหม่
ถึงเหตุการณ์ ที่ผ่านมา และผ่านไป
เพื่อแก้ไข ข้อบกพร่อง ต้องทบทวน
๐ ก้าวเดินไป ข้างหน้า อย่าหยุดยั้ง
แต่ข้างหลัง นั้นต้อง คงสงวน
เก็บเรื่องราว ที่ผ่านไป มาใคร่ครวญ
อย่ารีบด่วน คิดสรุป จะทุกข์ใจ
๐ จงหันมอง เบื้องหลัง ที่พลั้งพลาด
อย่าประมาท เดินทางผิด จงคิดใหม่
อย่าให้มัน ผ่านมา แล้วผ่านไป
จงแก้ไข ข้อบกพร่อง ของเราเอง
๐ ลดอัตตา มานะ และทิฐิ
อย่าตำหนิ ติเขา อย่างข่มเหง
จงอย่าใช้ กำลัง ให้ยำเกรง
อย่าอวดเบ่ง อวดรู้ ดูไม่งาม
๐ รู้จักความ พอดี เป็นที่ตั้ง
จงหยุดยั้ง ความคิด จิตหยาบหยาม
สิ่งไม่ดี อย่าได้ ไปเดินตาม
พยายาม รักษาจิต ให้คิดดี
๐ ไม่เป็นภัย ต่อชีวิต ไม่ผิดธรรม
ไม่สร้างกรรม ทำบาป จงหลีกหนี
จงมั่นคง ในธรรม นำชีวี
และธรรมนี้ จะคุ้มครอง ป้องกันตัว
๐ มีหิริ โอตตัปปะ เข้าละบาป
สิ่งชั่วหยาบ นั้นหรือ คือความชั่ว
อย่าเข้าไป เกี่ยวข้อง ให้หมองมัว
จงเตือนตัว เตือนตน พ้นอบาย
๐ อย่าจ้องจับ เพ่งโทษ ผู้อื่นเขา
กิเลสเรา จงดู ให้รู้หมาย
รู้จักตัว รู้จักตน ก่อนวันตาย
จะสบาย ไม่ตก นรกเอย…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔…