…รำพึงธรรมคำกวีที่ริมสระน้ำ…
๐ สายลมที่ได้พัดผ่าน
สะท้านหนาวทั่วทั้งกาย
สายลมสื่อบอกความหมาย
เปลี่ยนถ่ายแห่งฤดูกาล
๐ ยามเช้าที่แสนหนาวเหน็บ
จึงเก็บเอามาเล่าขาน
เรื่องราวของเมื่อคืนวาน
ที่ผ่านเล่าสู่กันฟัง
๐ ห่างหายใช่ว่าเหินห่าง
ไม่ว่างเพราะมีเบื้องหลัง
ภาระที่ยุ่งรุงรัง
มีทั้งส่วนตัวส่วนรวม
๐ งานหลวงก็มิให้ขาด
งานราษฎร์ก็ไม่ให้หลวม
เร่งสร้างทำเพื่อส่วนรวม
โดยร่วมสร้างให้แผ่นดิน
๐ ศาลาโบสถ์และวิหาร
เป็นงานในเชิงช่างศิลป์
ผู้คนได้มายลยิน
ท้องถิ่นได้พัฒนา
๐ บูชาซึ่งคุณพระพุทธ
สูงสุดของศาสนา
บูชาพระธรรมนำมา
คุณค่าของสัจธรรม
๐ บูชาซึ่งคุณพระสงฆ์
ดำรงทรงคุณค่าล้ำ
ตัวอย่างที่ได้ก้าวนำ
สืบธรรมสืบต่อกันมา
๐ งานนอกคือการก่อสร้าง
ทุกอย่างนั้นต้องเสาะหา
งานในคือภาวนา
รักษาจิตให้มั่นคง
๐ ไม่ว่างจากภารกิจ
แต่จิตไม่เคยลืมหลง
ศรัทธายึดมั่นยืนยง
มั่นคงไม่เสื่อมศรัทธา
๐ ทำงานนั้นทุกชนิด
ฝึกจิตเพื่อภาวนา
รู้กาลและรู้เวลา
รู้ว่าควรทำสิ่งใด
๐ ขอบคุณกับสายลมหนาว
ตื่นเช้าได้พบวันใหม่
สายลมนั้นอาจเปลี่ยนไป
แต่ใจไม่เคยเปลี่ยนแปลง
๐ ตอบแทนคุณของแผ่นดิน
ทุกถิ่นและทุกหนแห่ง
ทำไปตามที่มีแรง
ไม่แข่งอวดบารมี
๐ สืบต่อพระศาสนา
รักษาซึ่งธรรมวิถี
สืบต่อในสิ่งที่ดี
สิ่งนี้คือธรรมสัมมา
๐ ละเว้นในสิ่งมิชอบ
ประกอบด้วยจิตมิจฉา
มรรคแปดที่ได้มีมา
มรรคาสายเอกให้ตาม
๐ เป็นทางแห่งมัชฌิมา
คุณค่าอย่าได้มองข้าม
ไม่เกินความพยายาม
เดินตามมรรคแปดแนวทาง
๐ ธรรมะของในยามเช้า
เรื่องเล่าที่ริมหน้าต่าง
ใกล้ถึงเวลาฟ้าสาง
ทุกอย่างนั้นได้ผ่านมา
๐ เช้าใหม่ของชีวิตใหม่
สร้างไว้ให้มีคุณค่า
ตามธรรมขององค์สัมมา
ศึกษาทั้งโลกและธรรม
๐ ธรรมะนั้นอยู่คู่โลก
ลบโศกและลบรอยช้ำ
เพียงเรานั้นมาน้อมนำ
สู่ธรรมโยการทำตาม
๐ ฝากไว้ให้เป็นข้อคิด
แต่มิตรทุกผู้ทุกนาม
ฝึกใจนั้นให้งดงาม
เดินตามพระธรรมสัมมา
๐ ธรรมะเป็นปัจจัตตัง
ทุกครั้งที่ได้ศึกษา
ก่อเกิดให้มีปัญญา
รู้ค่าแห่งความเป็นคน…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒ มีนาคม ๒๕๖๔…