…รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๗๓…
…ปณิธานในการเป็นสมณะ…
…ใช่หวัง จะดังเด่น
จึงมาเป็น สมณะ
เพียงหวัง จะลดละ
ซึ่งมานะ และอัตตา
…เร่ร่อน และรอนแรม
ไปแต่งแต้ม แสวงหา
สัญจร ร่อนเร่มา
ผ่านร้อยป่า และภูดอย
…ลาภยศ และสรรเสริญ
ถ้าหลงเพลิน จิตเสื่อมถอย
พาใจให้ เลื่อนลอย
จิตเสื่อมถอย คุณธรรม…
…พิจารณาทำความรู้ความเข้าใจในทุกสรรพสิ่ง ในความเป็นจริงของชีวิตคิดพิจารณาทุกอย่างเข้าหาหลักธรรม มองให้เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ประสพพบเห็นนั้น “มันเป็นเช่นนั้นเอง”
…เมื่อเข้าใจทุกอย่างก็จบ มันมีคำตอบอยู่ในตัวของตัวมันเอง ไม่ต้องไปสงสัยไม่ต้องไปกังวล ไม่ต้องไปค้นหา เพราะว่า
…ตถตา มันเป็นเช่นนั้นของมันเอง
…เพราะทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายเรามันเป็นเช่นนั้นเอง พยายามคิดถึงสิ่งที่เป็นกุศล ฝึกตนด้วยการเจริญสติตั้งอยู่ในพรหมวิหาร ๔ อันมี เมตตากรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นหลักที่พักจิตปรับความคิดให้มองโลกในแง่ดีพิจารณาให้เห็นถึงคุณ ถึงโทษถึงประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ในทุก ๆ สิ่ง เห็นความเป็นจริงของกฎแห่งธรรมชาติซึ่งเป็นกฎของพระไตรลักษณ์ คือความเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา การเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป
…โดยใช้หลักธรรมในอริยสัจ ๔ มาประกอบในการคิดและพิจารณาสิ่งที่มากระทบทั้งหลายล้วนเป็นเหตุแห่งทุกข์ ค้นหาซึ่งเหตุที่มาแห่งทุกข์นั้นจนเห็นที่เกิดแห่งทุกข์ พิจารณาให้เห็นการดับไปแห่งทุกนั้น เมื่อรู้เห็นและเข้าใจในเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดทุกข์พิจารณาหาหนทางที่จะดับซึ่งเหตุและปัจจัยแห่งทุกข์ทั้งหลายนั้นให้เป็นสมุทเฉจคือการดับเหตุและปัจจัยตัดวงจรแห่งทุกข์นั้น แล้วน้อมนำเอาสิ่งที่ได้คิดพิจารณา ได้รู้ ได้เห็น ได้เข้าใจมาลงมือปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม การดับทุกข์ย่อมบังเกิดขึ้น จิตจะเข้าถึงซึ่งความสงบเมื่อจิตนั้นพบกับธรรม…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจ – สมณะไร้นาม…
…๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕…