…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๑๐…
…ไม่เคยวุ่นวายใจไปกับคำนินทา ไม่เก็บคำนินทามาคิดให้รกสมอง จิตเราก็จะสบาย คำติฉินนินทานั้นคือยาชูกำลังที่จะยับยั้งไม่ให้เราหลงระเริงหยิ่งผยองลำพองใจคำนินทานั้นคือสิ่งกระตุ้นเตือนตัวเราได้คิดพิจารณาตัวของเราเขาติดีกว่าเขาชม ทำให้เรารู้ตัวว่าเขาคิดอย่างไรกับเรา
…ซึ่งถ้าตัวเรานั้นเป็นจริงอย่างที่เขานั้นกล่าวนินทา เราก็จะได้รู้และปรับปรุงแก้ไข แล้วเราจะไปโกรธเขาทำไม ซึ่งถ้าเราไปโกรธตอบต่อเขา ก็เท่ากับเรานั้นกำลังแพ้ภัยกิเลสในใจของเรานั้นเอง…
…กาลเวลาแห่งชีวิตที่เราลิขิตได้…
…ห่างเหินใช่เหินห่าง
ระยะทางนั้นยาวไกล
สัญจรร่อนเร่ไป
สู่สิ่งใหม่ในหนทาง
…มีพบย่อมมีจาก
กรรมจำพรากให้เหินห่าง
วางใจให้เป็นกลาง
ทุกสิ่งอย่างจะเข้าใจ
…เข้าใจในชีวิต
เมื่อตั้งจิตคิดแบบใหม่
ผ่านมาให้แล้วไป
ตั้งต้นใหม่ใจมั่นคง
…ทางเดินของชีวิต
อยู่ที่จิตคิดนำส่ง
ศรัทธาต้องยืนยง
และมั่นคงในหลักการ
…จังหวะและเวลา
โอกาสมาอย่าให้ผ่าน
คิดต่อก่อเป็นงาน
เพื่อสืบสานจินตนา
…ทุกคนย่อมมีฝัน
อยากพบวันปรารถนา
ก้าวผ่านกาลเวลา
เรียนรู้ค่าประสพการ
…ฝันไว้ไปให้ถึง
คิดคำนึงตามหลักฐาน
ก้าวไปในสายธาร
แม้นยาวนานอย่าท้อใจ
…รางวัลของชีวิต
ผ่านถูกผิดอยู่ร่ำไป
สิ่งหวังและตั้งใจ
คงไม่ไกลถ้ายังเดิน
…เดินไปในทางฝัน
จิตสร้างสรรค์น่าสรรเสริญ
ทำใจให้เพลิดเพลิน
ความเจริญจะตามมา
…คิดดีและทำดี
ในสิ่งที่มีเนื้อหา
เชื่อมั่นและศรัทธา
ความก้าวหน้าจะมาเอง…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๖ พฤษภาคม ๒๕๖๔…