…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๔๓…
…คงจะเป็นเพราะความอิ่มตัวจึงทำให้ใกล้ถึงเวลาที่จะคืนกลับสู่ความเป็นสามัญ หลังจากที่ได้เปิดตัวออกมาเพื่อสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์ สามเณรและญาติโยมทั้งในเรื่องทางโลกและทางธรรมตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น ได้กระทำมาเกือบหมดทุกอย่างแล้ว เริ่มจากเป็นพระนักการเกษตรปลูกพืชผักผลไม้ เป็นพระนักสวด เป็นพระนักเทศน์ เป็นพระหมอยา หมอต่อเส้น หมอกระดูก หมองู หมอดูหมอผี เป็นหมอเจ้าพิธี เป็นพระนักสร้างนักพัฒนา เป็นพระเกจิอาจารย์อธิษฐานจิตปลุกเสกเลขยันต์สร้างวัตถุมงคล เป็นพระอาจารย์สักยันต์ เป็นพระศิลปินสร้างงานศิลป์ ออกแบบเขียนแบบวัดวาอารามเป็นช่างถ่ายภาพ เป็นนักเขียนเป็นมาทำมาเกือบทุกอย่างแล้วเหลือเพียงสิ่งเดียวที่ยังไม่ได้ทำคือทำพระนิพพานให้แจ้ง
…คงจะถึงเวลาที่จะต้องหันมาสงเคราะห์ตนเองให้เวลาแก่ตนเองมากขึ้น ปลีกตัวออกจากหมู่คณะลดการคลุกคลียุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลกทั้งหลาย มาเน้นเรื่องทางธรรมให้มากขึ้น ยิ่งขึ้นกว่าที่ผ่านมา
…ยังจำคำของครูบาอาจารย์ที่ท่านได้เมตตากล่าวตักเตือนว่า
…ธรรมทั้งหลายนั้น คุณก็ได้ศึกษาเรียนรู้มาหมดแล้ว เหลือเพียงการลงมือปฏิบัติให้จริงในสิ่งที่รู้และเข้าใจ…คำกล่าวตักเตือนนั้นยังจำได้อยู่เสมอไม่เคยลืม…
…กวีธรรมตามรายทาง…
…ร้อยเรียงกวีธรรม
ร้อยลำนำตามรายทาง
เพื่อให้เป็นแบบอย่าง
แด่ผู้คนที่สนใจ
…หลายหลากมากเรื่องราว
นำมากล่าวเล่ากันไป
ชี้แจงแถลงไข
บอกทางสุขให้ทุกคน
…เน้นย้ำเรื่องสติ
ให้ดำริด้วยกุศล
เพื่อความเป็นมงคล
ต่อชีวิตและครอบครัว
…ให้มีคุณธรรม
ไม่ถลำทำความชั่ว
ละอายและเกรงกลัว
ต่อบาปกรรมที่เข้ามา
…มีจิตเกื้อการุณย์
คอยเกื้อหนุนมีเมตตา
มีจิตคิดอาสา
สร้างประโยชน์ต่อสังคม
…ผ่อนคลายด้วยภาพถ่าย
ที่มากมายได้สะสม
เพลิดเพลินในอารมณ์
ชวนให้คิดและติดตาม
…แฝงด้วยสาระธรรม
ที่ชี้นำอย่ามองข้าม
วัดวาและอาราม
นำเสนอเป็นประจำ
…ขอบคุณที่ตามติด
ไมตรีจิตจะหนุนนำ
ก่อเกิดกุศลกรรม
ร่วมกันสร้างซึ่งทางดี…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๗ มิถุนายน ๒๕๖๔…