…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๕๗…
…เจริญธรรมอย่างเดียว ชื่อว่าเจริญธรรมอย่างอื่นอีกมาก…
…“ดูก่อนอานนท์ ! ธรรมอย่างหนึ่งคืออานาปานสติสมาธิ (สมาธิ ซึ่งมีสติกำหนดลมหายใจเข้าออกเป็นอารมณ์) อันบุคคล เจริญแล้ว ทำให้มากแล้วย่อมทำสติปัฏฐาน (การตั้งสติ) ๔ อย่างให้สมบูรณ์ สติปัฏฐาน ๔ อันบุคคลเจริญแล้วทำให้มากแล้ว ย่อมทำโพชฌงค์ (องค์ประกอบแห่งปัญญาเครื่องตรัสรู้) ๗ อย่างให้บริบูรณ์ โพชฌงค์ ๗ อันบุคคลเจริญทำให้มากแล้ว ย่อมทำวิชชา (ความรู้) วิมุติ (ความหลุดพ้น)ให้บริบูรณ์ “…
…สังยุตนิกาย มหาวรรค ๑๙/๔๑๗…
๐ พร่างพราว ดาวเดือน ลอยเด่น
มองเห็น อยู่บน ฟากฟ้า
เดือนดาว ดูพราว แพรวตา
แต่งฟ้า ให้ดู น่ายล
๐ ม่านเมฆ ลมพัด ลอยมา
บดบัง ผืนฟ้า มืดมน
ฟ้าครึ้ม คล้ายดั่ง มีฝน
มืดมน เดือนดาว ลับลา
๐ นิจจา คิดว่า เที่ยงแท้
เปลี่ยนแปร เป็นอนิจจา
ทุกสิ่ง ล้วนคือ มายา
เกิดมา ตั้งอยู่ ดับไป
๐ เกิดดับ อยู่ทุก ขณะ
คำพระ ท่านได้ สอนไว้
เราพึง สังวร แก่ใจ
อย่าได้ ประมาท คืนวัน
๐ ชีวิต นี้มัน ไม่เที่ยง
สุ่มเสี่ยง ปรวนแปร ผกผัน
จงตื่น อยู่ทุก คืนวัน
จงหมั่น ทบทวน ซึ่งธรรม
๐ ชีวิต เป็นของ น้อยนิด
ลิขิต ไปตาม ผลกรรม
เพียรสร้าง กุศล หนุนนำ
เร่งทำ ประกอบ สิ่งดี
๐ ชีวิต จะไม่ ไร้ค่า
เกิดมา ครั้งหนึ่ง ชาตินี้
จงใช้ เวลา ที่มี
ทำดี ให้แก่ ตัวตน
๐ สร้างบุญ กุศล หนุนนำ
เร่งทำ ไปทุก แห่งหน
เกื้อกูล ช่วยเหลือ ผู้คน
ฝึกตน ให้เป็น คนดี….
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๕ มกราคม ๒๕๖๕…