…ย้ำเตือนจิต คิดถึงธรรม…
…”กาลามสูตร” อันเป็นหลักแห่งความเชื่อ ที่สอนไม่ให้เชื่ออย่างงมงาย โดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริง ถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนที่จะเชื่อ ซึ่งมีหลักให้พิจารณาอยู่ ๑๐ ประการคือ…
๑. อย่าเชื่อตามที่ฟังๆกันมา
๒. อย่าเชื่อตามที่ทำต่อๆกันมา
๓. อย่าเชื่อตามคำเล่าลือ
๔. อย่าเชื่อโดยอ้างตำรา
๕. อย่าเชื่อโดยนึกเอา
๖. อย่าเชื่อโดยคาดคะเนเอา
๗. อย่าเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
๘. อย่าเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
๙. อย่าเชื่อเพราะรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
๑๐. อย่าเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูอาจารย์ของตน
…คือหลักการสอนให้ทุกคนรู้จักคิดและพิจารณา ค้นคว้าและทดลองปฏิบัติเพื่อความเห็นชัด คือสอนให้คิดเป็นทำเป็น เพราะว่าการเชื่อในทันทีนั้นมันอาจจะนำไปสู่ความงมงายและความโง่ เพราะคิดเองไม่เป็น ต้องให้ผู้อื่นคิดให้หรือชี้แนะอยู่ตลอดเวลาซึ่งในชีวิตจริงนั้นเราต้องช่วยเหลือตัวของเราเองก่อนเสมอ คือต้องทำด้วยตัวของเราเองเสียก่อน ก่อนที่จะไปร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นดั่งพุทธสุภาษิตที่ว่า…
“อัตตา หิ อัตตา โน นาโถ… ตนเป็นที่พึ่งของตน” ผู้อื่นเป็นได้เพียงผู้ชี้แนะและนำทาง แต่การจะก้าวเดินไปข้างหน้าอยู่ที่ตัวเรา ว่าจะก้าวขาเดินตามไปหรือไม่ ซึ่งมันขึ้นอยู่กับตัวเรา ที่จะทำหรือไม่ทำ…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕…