ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่๑๑

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่๑๑…

…เหนื่อยล้ากับการแรมรอนของชีวิตบางครั้งเคยคิดที่จะหยุดซึ่งลมหายใจอยากจะจากไปโดยไม่ต้องหวนกลับมาบอกลาซึ่งการเกิดแก่และเจ็บตายแต่ยังทำไม่ได้เพราะบุญกุศลไม่เพียงพอจึงต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปในโลกที่แสนจะวุ่นวายทำให้ยอมรับกับความจริงสิ่งเหล่านั้นให้ได้

…สิ่งทั้งหลายมันก็เป็นเช่นนั้นเองมันเป็นเรื่องของกิเลสตัณหาความทะยานอยาก ที่มีมากน้อยแตกต่างกันไปในทุกผู้คนบนโลกใบนี้เพราะความไม่พอดีและพอเพียงของจิตที่คิดกันไป ทำให้ธรรมชาติทั้งหลายนั้นต้องเปลี่ยนแปลงไปตามแรงของกิเลสและตัณหาของมนุษย์ทั้งหลาย ธรรมชาตินั้นจึงเอาคืนเมื่อเราไปฝืนกฎของธรรมชาติ

…อนาถ สลด สังเวช เป็นเหตุแห่งความเบื่อหน่าย ทำให้จิตนั้นจางคลายจากกิเลสตัณหาและอัตตา เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในจิตและความคิดของตนแม้แต่ความอยากจะหลุดพ้นมันก็คือตัวตัณหา เมื่อจิตนั้นได้คิดและพิจารณาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเห็นที่มาและที่ไปเหตุและปัจจัยที่ทำให้มันเกิดเมื่อเห็นจิตรู้ใจก็ให้เห็นธรรมว่ามันเป็นเช่นนั้นเอง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕…