…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๒๘…
“ความไม่ประมาท เป็นยอดแห่งธรรมทั้งปวง”
“อปฺปมาโท เตสํ ธมฺมานํ อคฺคมกฺขายติ”
พุทธสุภาษิต คถาคตสูตร ๑๙/๖๗
……………………………….
…ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนแต่สมมุติกันขึ้นมา บัญญัติกันตามชาติและภาษาจึงมีชื่อแตกต่างกันออกไป ไม่มีอะไรที่จะฝืนกฎของพระไตรลักษณ์นั้นได้เลยอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา คือมายาของโลกสมมุติ ที่เราหลงไปติดอยู่ หลงเข้าไปยึดถือ จนไม่เห็นสัจธรรมที่แท้จริง ของสรรพสิ่งธรรมชาติที่อยู่รอบกายและภายในจิตภายในใจของเรา…
…ความบริสุทธิ์ของจิตอยู่ที่ไหน อะไรที่เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ สภาวะนั้นมันเป็นอย่างไร ได้แต่ถามตัวเองเคยได้ยินได้ฟัง ได้อ่าน ได้รู้ ก็เพียงที่เขาเล่ามา หรือในตำราที่ได้อ่านมันเป็นเพียงสัญญา คือการจำได้หมายรู้ที่บันทึกไว้ในสมองเท่านั้นเพียงท่องได้ จำได้ พูดได้ เหมือนว่าจะเข้าใจแต่มันยังไม่ใช่ เพราะมันเป็นเพียงสัญญา ซึ่งเป็นปริยัติ ตามตัวอักษรที่เราตีความขยายความ…
…สภาวธรรมที่แท้จริงนั้น เราอาจจะยังไม่พบหรือพบแล้วแต่เป็นเพียงผ่านกระแส แต่ไม่ได้ทรงอยู่ในสภาวธรรมนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเร่งความเพียรให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่เพื่อทำความพร้อมของกายและจิตของเรา สร้างพละให้กลายเป็นอินทรีย์ ให้มีความเหมาะสมที่จะรองรับสภาวธรรมนั้น อย่าอยู่กับความคิดจินตนาการและความฝัน จงทำสิ่งนั้นให้ปรากฏ ซึ่งจะเร็วหรือช้านั้นขึ้นอยู่กับกรรม การกระทำของตัวเรา…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๕…