…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๓๐…
…สรรพสิ่งมันเป็นเช่นนั้นเอง…
…สรรพสิ่งเคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง
คือความจริงสัจจะในวันนี้
และปัญหาหลายหลากที่มากมี
คือสิ่งที่ต้องคิดพิจารณา…
…ทุกอย่างนั้นล้วนเกิดจากต้นเหตุ
ควรสังเกตวิเคราะห์และศึกษา
ทุกอย่างนั้นมีเหตุให้เกิดมา
จงมองหาให้เห็นความเป็นจริง…
…เมื่อรู้เห็นและเข้าใจในที่เกิด
จิตบรรเจิดย่อมเข้าใจสรรพสิ่ง
เห็นเหตุผลและปัจจัยใช้อ้างอิง
เพราะทุกสิ่งล้วนเกิดดับธรรมดา…
…มีเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็ดับ
เปลี่ยนสลับกันไปตามเนื้อหา
อนิจจังทุกขังอนัตตา
ธรรมดามันเป็นเช่นนั้นเอง…
…เมื่อจิตรู้และเข้าใจในสิ่งนี้
ก็ไม่มีอะไรไปข่มเหง
เกิดละอายในชั่วและกลัวเกรง
จิตก็เก่งมีสติใช้ตริตรอง…
…เมื่อมองโลกมองธรรมนำมาคิด
ชำระจิตชำระใจไม่เศร้าหมอง
ดำเนินจิตก้าวไปในครรลอง
และเฝ้ามองกายจิตคิดถึงธรรม…
…มีสติระลึกรู้อยู่ทั่วพร้อม
จิตก็น้อมพาใจไม่ใฝ่ต่ำ
จิตก็เดินไปในโลกและในธรรม
เพราะน้อมนำธรรมะมานำทาง..
…เดินตามธรรมนำทางสว่างจิต
นำชีวิตก้าวไปใจสว่าง
รู้จักลดรู้จักละรู้จักวาง
ไม่หลงทางเพราะมีธรรมนั้นนำไป…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๕…