ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๒๘

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๒๘…

…ทุกชีวิตย่อมมีเป้าหมาย
อย่าปล่อยให้ผ่านไปโดยไร้ค่า
อย่าปล่อยวันเวลาให้สูญเปล่า
ชีวิตเรานั้นควรจะมีเป้าหมาย
ฝันนั้นอาจจะตั้งไว้ไม่ไกล
แต่เรานั้นต้องเดินไปให้ถึง
ทำซึ่งความฝันนั้นให้เป็นจริง
ไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินจะกระทำ…

…ใคร่ครวญธรรมยามฝนพรำ…

…เหน็บหนาว ในคืนค่ำ
สายฝนพรำ ตลอดมา
ลมหนาว ต้องกายา
ให้หนาวจิต คิดใคร่ครวญ

…วันคืน ที่ล่วงไป
มีอะไร ให้ทบทวน
สิ่งที่ ควรไม่ควร
ระลึกรู้ เตือนใจตน

…มองหา ซึ่งขอบเขต
ไปตามเหตุ ที่ส่งผล
ชั่วดี มีหรือจน
คือผลกรรม ที่ทำมา

…เรียนรู้ จากชีวิต
ด้วยความคิด แสวงหา
เสริมสร้าง ทางปัญญา
ศึกษาทุกข์ จากของจริง

…ทุกข์นั้น เกิดจากเหตุ
หากสังเกต ในทุกสิ่ง
ทุกข์นั้น คือของจริง
ที่ต้องพบ ประสพเจอ

…ไม่อาจ จะหลีกหนี
ทุกข์นั้นมี อยู่เสมอ
ตัวฉัน และตัวเธอ
ล้วนมีทุกข์ กันทุกคน

…ทุกข์มาก หรือทุกข์น้อย
ทุกข์กันบ่อย ทุกแห่งหน
ความทุกข์ ในใจคน
นั้นล้วนเกิด จากอัตตา

…ตัวกู และของกู
ที่มีอยู่ สร้างตัณหา
ความอยาก จะได้มา
ตามที่ใจ นั้นต้องการ

…ตัณหา พาให้ทุกข์
ไร้ซึ่งสุข ในแก่นสาร
ล่วงเลย ไปตามกาล
เป็นวัฏฏะ ที่หมุนวน

…ตราบใด ใจยังอยาก
มันก็ยาก จะหลุดพ้น
ตกอยู่ ในวังวน
แห่งตัณหา อุปาทาน

…ลดละ ซึ่งตัณหา
และอัตตา พอประมาณ
ทุกข์นั้น ก็ถึงกาล
จะลดน้อย ถอยกำลัง

…พอใจ ในสิ่งมี
และสิ่งที่ ควรมุ่งหวัง
ตามแรง ตามกำลัง
ความพอดี และพอเพียง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๕…