รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๕๕

…รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๕๕…

…เมื่อหยุดคิดปรุงแต่งและวางทุกสิ่งลงได้ ทั้งสิ่งที่รู้และสิ่งที่ถูกรู้ทั้งปวง สัจธรรมความจริงแท้ก็จะปรากฏขึ้นมาให้รู้เองในความโปร่ง ในความว่างในความนิ่ง จะมองเห็นทุกสิ่งที่ซ่อนอยู่อย่างชัดเจนชัดเจน อุปมาเหมือนน้ำที่ขุ่นไปด้วยโคลนตมและกระเพื่อมเราย่อมมองไม่เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ในน้ำได้ชัดเจน แต่ถ้าทำให้น้ำนั้นมันนิ่งโคลนตมตกตะกอน เราย่อมมองเห็นสิ่งที่อยู่ในน้ำนั้นได้ชัดเจนฉันใดก็ฉันนั้นจิตของเราเหมือนกัน ต้องทำให้มันนิ่งให้มันโปร่ง ให้มันโล่ง ให้มันใสแล้วเราก็จะเห็นอะไรที่เป็นสัจธรรม…

…แด่อารมณ์ธรรมที่นำเอาข้อคิดที่ผ่านมา ยกขึ้นมาพิจารณาทบทวนใคร่ครวญธรรม…

…ในหนึ่งวัน นั้นประสพ พบมากมาย
มีทั้งร้าย แหละดี ที่พบเห็น
ความสับสน วุ่นวาย ที่ได้เป็น
ทั้งยากเข็ญ เรียบง่าย ให้ได้เจอ

…เป็นเพราะกรรม นำมา พาให้พบ
ต้องประสพ พบพาน อยู่เสมอ
ตั้งสติ คุมใจ ไม่เผลอเลอ
เมื่อพบเจอ ปัญหา สาระพัน

…ทุกสิ่งนั้น เกิดจากกรรม ตัวกำหนด
ไปตามบท ที่กรรม นั้นจัดสรร
เพราะว่ากรรม เป็นทายาท แห่งเผ่าพันธุ์
ทุกอย่างนั้น ล้วนกรรม ตัวนำพา

…ประคองกาย ประคองจิต ด้วยสติ
และหมั่นตริ หมั่นตรอง มองปัญหา
มีสติ สมาธิ และปัญญา
ให้รู้ว่า ที่เห็น เป็นเช่นไร

…ไตรสิกขา ชี้นำ ความถูกต้อง
เมื่อไตร่ตรอง มองทาง เพื่อแก้ไข
สติมา ปัญญามี เห็นที่ไป
รู้ที่ใจ รู้ที่จิต เมื่อคิดทำ

…คือแสงธรรม แสงทอง ส่องสว่าง
ส่องนำทาง ชีวิต ที่เลิศล้ำ
เพราะกุศล ผลบุญ ที่ได้ธรรม
กุศลกรรม นำจิต ให้คิดดี

…มีปัญญา รู้จริง สิ่งที่เกิด
สุดประเสริฐ มีธรรม นำวิถี
กุศลธรรม นำสร้าง ทางชีวี
ช่วยนำชี้ ทางไป ให้เราเดิน

…บนเส้นทาง สายธรรม นำชีวิต
รู้ถูกผิด แก้ไข ไม่เคอะเขิน
เจริญสุข เจริญธรรม ทำให้เพลิน
ไม่ขาดเกิน เดินไป ในขั้นตอน

…สร้างกุศล ในชาตินี้ ไว้ดีกว่า
บุญนำพา ชีวิต ไม่ทุกข์ร้อน
มีศีลธรรม หุ้มใจ เป็นอาภรณ์
ละนิวรณ์ จิตสงบ เมื่อพบธรรม….

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๕ เมษายน ๒๕๖๕…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *