…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๔๕…
… การปฏิบัติธรรมนั้นท่านให้เป็นไปตามลำดับ เพื่อปรับธาตุ ปรับอินทรีย์ให้มีความพร้อม โดยเริ่มจากการให้ทานก่อน เพื่อปรับจิตใจให้มีความอ่อนโยน มีความเมตตา โอบอ้อมอารีมีความเสียสละ ละความเห็นแก่ตัวลงเสียก่อน ควบคู่กับการรักษาศีลเพราะการรักษาศีลนั้นคือการเจริญสติ ควบคุมกายและจิต ไม่ให้ผิดข้อวัตรปฏิบัติ มีสติควบคุมอยู่เพื่อให้ไม่ผิดศีล สิ่งที่ได้จากการรักษาศีลคือสติและองค์แห่งคุณธรรมคือความละอายและเกรงกลัวต่อบาป เพราะเรามีคุณธรรมข้อนี้เราจึงไม่ล่วงละเมิดผิดศีลทั้งในที่ลับและในที่แจ้ง…
…เมื่อเข้าสู่การภาวนาเพื่อให้เกิดสมาธินั้น ก็ให้เป็นไปตามกรรมฐานที่เรามีความชอบ มีความศรัทธาคือศรัทธาในครูบาอาจารย์ที่เป็นต้นแบบ ศรัทธาในการประพฤติปฏิบัติตามแนวทางที่ครูบาอาจารย์ท่านแนะนำ คือทำในสิ่งที่ชอบทำในสิ่งที่ใช่ แล้วเราจะทำได้อย่างมีความสุขและจะมีความเจริญก้าวหน้า ควรจะลองปฏิบัติให้ทุกแนวทาง ทุกกองกรรมฐานเพื่อหาธรรมะที่เหมาะสมกับจริตของเรา ซึ่งถ้าถูกกับจริตของเราแล้วกรรมฐานแนวนั้นจะมีความเจริญในธรรมเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วต่อเราอย่าไปปฏิบัติตามกระแสนิยมเห็นอาจารย์ท่านนั้นมีชื่อเสียงคนขึ้นมากดังมากแล้วเราก็ไปปฏิบัติตามสำนักนั้น พอมีสำนักอื่นอาจารย์ท่านอื่นมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาใหม่ ก็เปลี่ยนไปปฏิบัติตามแนวของอาจารย์ท่านใหม่ เรียกว่าแห่กันไปตามกระแสนิยม ติดอยู่ในตัวบุคคล ไม่ได้สนใจในธรรมอย่างแท้จริง….
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๕ เมษายน ๒๕๖๕…