…ธรรมะและหลักธรรมต่าง ๆ นั้น เราเคยรู้เคยเข้่าใจเคยได้ประสพมาถ้าเราไม่หมั่นรักษาและปฏิบัติทบทวนอยู่อย่างสม่ำเสมอ อาจจะทำให้หลงลืมไปจึ่งต้องพยายามใคร่ครวญทบทวนอยู่ให้เนืองนิจ ได้อ่านบันทึกธรรมเก่า ๆ ที่เคยเขียนไว้และอ่านหนังสือธรรมบรรยายของครูบาอาจารย์ เป็นการทบทวนความรู้ เพราะว่าในขณะที่เราอ่านหรือฟังนั้น เราต้องตั้งสติและมีสมาธิในการฟัง
…และการอ่านต้องน้อมจิตตามธรรมะที่กำลังรับรู้ ได้พิจารณาใคร่ครวญตาม จึงเป็นการปฏิบัติธรรมไปในตัว ครบองค์ ๓ ในไตรสิกขา ศีล สมาธิ ปัญญา และเมื่อเราได้อ่านได้ฟังซ้ำ ๆ กันหลายครั้ง ได้คิดพิจารณาอยู่บ่่อย ๆ ในหัวข้อธรรมนั้น ๆ มันจะเกิดมุมมองที่กว้างขึ้นทุกครั้ง ได้รู้และเข้าใจละเอียดไปยิ่งขึ้น จากที่เคยรู้เคยเข้าใจมาก่อน นั้นคืออานิสงส์ของการฟังธรรมศึกษาธรรมะ คือทำให้เราได้รู้ได้เห็นในความโง่ ความหลงของเราเห็นกิเลสของตัวเราเอง อย่างที่ได้เคยกล่าวไว้ว่า …
…การปฏิบัติธรรมนั้น ไม่ได้ทำให้เราฉลาดขึ้น เก่งขึ้น หรือทำให้เราดีกว่าผู้อื่น เก่งกว่าผู้อื่น เพราะถ้าเราไปคิดอย่างนั้นมันจะเป็นการสร้างมานะทิฏฐิเพิ่มอัตตาแก่ตัวเราเอง แต่การปฏิบัติธรรมนั้นทำให้เรารู้และเข้าใจในตัวของเราเอง เห็นความโง่ ความหลง ความผิดพลาดและกิเลสทั้งหลายที่มีอยู่ในตัวของเราเอง ซึ่งเราต้องรู้ต้องเห็นและเข้าใจในสิ่งนั้นเสียก่อน จึงจะเข้าไปลดละเลิก มันได้…
…ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร…
…๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๔…