…กายพร้อม จิตพร้อม แล้วน้อมเข้าสู่ธรรม…
๐ จงดูกาย ดูจิต พร้อมดูธรรม
ดูแล้วนำ มาคิด วินิจฉัย
ดูให้เห็น ในสิ่ง ที่เป็นไป
ให้เข้าใจ ในสิ่ง ที่เป็นมา
๐ มองหาเหตุ ปัจจัย มองให้เห็น
สิ่งที่เป็น บ่อเกิด ของปัญหา
ใช้ความคิด ใช้สติ ใช้ปัญญา
จงมองหา มองให้เห็น ความเป็นจริง
๐ ชีวิตนี้ ย่อมมี อุปสรรค
เป็นตามหลัก เปลี่ยนไป ในทุกสิ่ง
อนิจจา ไม่เที่ยง คือความจริง
สรรพสิ่ง ย่อมผันแปร ไม่แน่นอน
๐ เมื่อมีได้ ก็ย่อม จะมีเสีย
เมื่ออ่อนเพลีย ควรตั้งหลัก หยุดพักผ่อน
ให้จิตใจ เข้มแข็ง และแน่นอน
แล้วค่อยย้อน มาแก้ไข ให้ทันการ
๐ การกดดัน ตนเอง เกรงจะเสีย
กายอ่อนเพลีย และใจ ที่ไม่นิ่ง
จะทำให้ ไม่เห็น ความเป็นจริง
มองทุกสิ่ง ไม่ชัด เพราะอัตตา
๐ ทุกปัญหา มีทาง จะแก้ไข
อยู่ที่ใจ ยอมละ ซึ่งตัณหา
ความอยากมี อยากได้ เพราะโลภา
คือตัณหา ความโลภ เข้าครอบงำ
๐ เมื่อไม่ยอม เสียสละ ก็ละอยาก
ต้องลำบาก ทำชีวิต ให้ตกต่ำ
ก่อให้เกิด จองเวร และจองกรรม
บุญไมทำ กรรมจึงเกิด ขึ้นแก่ตน
๐ เพราะตัณหา อัตตา และมานะ
ที่ไม่ละ ไม่วาง จึงให้ผล
ต้องกลุ้มใจ ไร้สุข ต้องทุกข์ทน
นั้นคือผล ของกรรม ที่ทำมา
๐ “ความพอดี พอเพียง เลี้ยงชีวิต
รู้ถูกผิด ในกิเลส และตัณหา
รู้แล้วละ รู้แล้ววาง ด้วยปัญญา
จะนำพา ชีวิต ให้รุ่งเรือง”…
… ด้วยความปรารถนาดีและไมตรีจิต…
….รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม-วจีพเนจร…
…๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๔…