ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๖๑

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๖๑…

…เดินไปในเส้นทางธรรม พยายามที่จะดำเนินชีวิตไปตามพระธรรมเดินตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์เท่าที่จะทำได้ ตามกำลังสติปัญญาและบุญกุศลของเรา ไม่ใช่เป็นการเห็นแก่ตัว แต่เราต้องเอาตัวของเราให้รอดเสียก่อน ก่อนที่เราจะไปช่วยผู้อื่น ก่อนที่จะไปสอน ไปแนะนำผู้อื่นต้องรู้ ต้องเข้าใจและทำได้ ให้รู้จริง

…เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการแนะนำสั่งสอนเขา ต้องฝึกหัดปฏิบัติที่ตัวเราให้เกิดความกระจ่างชัดในสภาวธรรมทั้งหลาย ทำความรู้ความเข้าใจของเรานั้น ให้ถูกต้องสอดคล้องในหลักธรรม ก่อนจะนำไปเผยแผ่แก่คนทั้งหลาย…

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๖๑”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๙๖

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๙๖…

… รอยทาง สร้างรอยธรรม
ผู้ชี้นำ องค์สัมมา
ตามรอย ศาสดา
ให้ศึกษา และเดินตาม

… ทางธรรม นำชีวิต
กุศลจิต พยายาม
แบบอย่าง ที่ดีงาม
ขอเดินตาม พระสัมมาฯ

… แนวทาง แห่งความสุข
เพื่อดับทุกข์ อวิชชา
โมหะ และอัตตา
ทั้งตัณหา อุปาทาน

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๙๖”

ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๐

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๐…

“การสะสมบุญทำให้มีความสุข”
“สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย”
…พุทธสุภาษิต ธรรมบท ๒๕/๒๖…

…การทำงานทุกอย่างเป็นการปฏิบัติธรรมไปในตัว เพราะว่าการปฏิบัติธรรมนั้นคือการเจริญกุศลจิตเจริญสติและสัมปชัญญะอยู่ทุกขณะจิต มีความระลึกรู้และรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่ตลอดเวลาทั้งในการคิดและการกระทำ

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๐”

ลมหายใจแห่งสายธรรม

…ลมหายใจแห่งสายธรรม…

…พยายามอบรมตนเองให้รู้จักข้อวัตรปฏิบัติ เพื่อให้รู้จักรับผิดชอบต่อหน้าที่และมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม อะไรที่ผิดเราก็พยายามละพยายามลดละไม่ทำตามความคิดฝ่ายต่ำ สร้างแต่สิ่งที่เป็นคุณงามดี ดั่งที่ได้ตั้งปณิธานไว้ “ไม่เก็บ ไม่กำ ไม่กอบ ไม่โกง ไม่กินไม่เอาเปรียบผู้ใด ทุกอย่างทำไปเพื่อสร้างบารมี”

อ่านเพิ่มเติม “ลมหายใจแห่งสายธรรม”

ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๖๐

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๖๐…

…ดั่งที่เคยได้กล่าวเตือนไว้เสมอว่า “ถ้าเชื่อทันที อาจจะนำไปสู่ความงมงาย ถ้าปฏิเสธทันที อาจจะทำให้เราขาดประโยชน์ที่ควรจะได้รับจึงควรที่จะคิดพิจารณา ไตร่ตรองให้รอบคอบในสิ่งที่รู้ที่เห็น ควรจะทดลองพิสูจน์ ศึกษาฝึกฝนที่ใจตนให้เกิดความกระจ่างชัด รู้ซึ้งถึงเหตุและปัจจัย ความเป็นมา ความเป็นไปให้ขึ้นด้วยใจตนแล้วจึงจะเชื่อหรือปฏิเสธ โดยเอาเหตุและผลที่เป็นจริงมาเป็นที่ตั้ง แล้วทุกอย่างก็จะสรุปจบลงที่ใจ”

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๖๐”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๙๕

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๙๕…

…ทบทวนถึงทุกสิ่งทุกอย่างตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา เห็นความก้าวหน้าและความเสื่อมถอย ในหลายสิ่งหลายอย่าง วิเคราะห์หาเหตุและผลที่ทำให้เป็นไปอย่างนั้นนำมาหาข้อสรุปเพื่อจะกำหนดทิศทางที่จะก้าวเดินไปด้วยกัน ของหมู่คณะและองค์กรที่มีส่วนร่วม

…พิจารณาถึงหัวข้อธรรมบทหนึ่ง ซึ่งเคยได้ศึกษาและได้นำมาปฏิบัติ หัวข้อธรรมนั้นคือ สังคหวัตถุธรรม ๔ ประการ คือธรรมที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจหมู่คณะ และประสานหมู่คณะทั้งหลายให้เกิดความสามัคคีรักใคร่ซึ่งกันและกัน อันเป็นการสงเคราะห์ด้วยธรรม อันได้แก่…

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๙๕”

ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๕๙

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๕๙…

…เหมือนดั่งโบราณที่ท่านว่า…
“สิบปากว่า ไม่เท่าหนึ่งตาเห็น
สิบตาเห็น ไม่เท่าหนึ่งมือคลำ
สิบมือคลำ ไม่เท่ากับทำเอง”

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๕๙”

ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๕๙

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๕๙…

…ฤดูกาลแห่งพรรษาผ่านล่วงเลยไปเกินครึ่งพรรษา รู้สึกธรรมดากับวันเวลาที่ผ่านไปเพราะว่าใจเรานั้นไม่ได้มีความกังวล ไม่เหมือนสมัยเมื่อแรกบวชนั้น เรายังทำใจไม่ได้ไม่เข้าใจธรรม ไม่มีธรรมเป็นเครื่องอยู่ พอถึงฤดูเข้าพรรษาใจเรามันเร้าร้อน มีความกังวลกับวันเวลาที่ผ่านไปในแต่ละวันนั่งนับวัน นับคืน ดูปฏิทิน อยากจะให้วันเวลานั้นผ่านไปให้ถึงวันออกพรรษาเร็วๆ เพื่อจะได้เดินทางท่องเทียวเปลี่ยนสถานที่ ไปแสวงหาครูบาอาจารย์ตามที่ต่าง ๆ…

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๕๙”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๙๔

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๙๔…

“ภิกษุทั้งหลาย! เราประพฤติพรหมจรรย์นี้มิใช่เพื่อหลอกลวงคน เพื่อให้คนบ่นถึงเพื่อผลคือลาภสักการะและชื่อเสียงเพื่อเป็นเจ้าลัทธิ เพื่อให้คนทั้งหลายรู้จักเราก็หามิได้ แต่ที่จริงแล้วเพื่อความสังวรระวัง เพื่อละกิเลสเพื่อคลายกิเลส และเพื่อดับกิเลสเท่านั้น”

“นยิทํ ภิกฺขเว พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ
ชนกุหนตฺถํ น ชนลปนตฺถํ
น ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถํ
น อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสตฺถํ
น อิติ มํ ชโน ชานาตูติ
อถโข อิทํ ภิกฺขเว พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ
สํวรตฺถํ ปหานตฺถํ วิราคตฺถํ นิโรธตฺถนุติ”
…พุทธสุภาษิต พรหมจริยสูตร ๒๑/๒๙…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๔…

ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๕๘

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๕๘…

…ถามตัวเองอยู่เสมอว่า วันเวลาที่ผ่านไปนั้น เราได้อะไรจากวันเวลาและคุ้มค่ากับวันเวลาที่ผ่านไปหรือไม่เพื่อไม่ให้เราหลงกับวัยและเวลาชีวิตที่เหลืออยู่จะได้เร่งสร้างคุณค่าให้กับชีวิต แม้นเพียงสักน้อยนิดก็ยังดีกว่าที่เรานั้นจะไม่ได้ทำอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน ทั้งประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน ไม่ได้หวังว่าจะต้องได้ในชาตินี้หรือชาติหน้าเพียงแต่ตั้งใจว่าจะทำไปเรื่อย ๆ ถึงเมื่อไหร่ไปเมื่อนั้น จะไม่สร้างความกดดันให้กับตัวเองเหมือนที่เคยผ่านมา เพราะว่าจะทำให้เกิดอาการเกร็ง เพราะไปเคร่งแล้วมันจะเครียด เป็นการเบียดเบียนตนเองความเจริญในธรรมทั้งหลายก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะว่าความกังวลกดดันมาขวางกั้นความเจริญในธรรมทั้งหลายมิให้เกิดขึ้น…

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๕๘”