ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๔

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๔…

…“ภิกษุทั้งหลาย! เราประพฤติพรหมจรรย์นี้ มิใช่เพื่อหลอกลวงคนเพื่อให้คนบ่นถึง เพื่อผลคือลาภสักการะและชื่อเสียง เพื่อเป็นเจ้าลัทธิ เพื่อให้คนทั้งหลายรู้จักเราก็หามิได้ แต่ที่จริงแล้วเพื่อความสังวรระวัง เพื่อละกิเลสเพื่อคลายกิเลส และเพื่อดับกิเลสเท่านั้น”

“นยิทํ ภิกฺขเว พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ
ชนกุหนตฺถํ น ชนลปนตฺถํ
น ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถํ
น อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสตฺถํ
น อิติ มํ ชโน ชานาตูติ
อถโข อิทํ ภิกฺขเว พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ
สํวรตฺถํ ปหานตฺถํ วิราคตฺถํ นิโรธตฺถนุติ”
…พุทธสุภาษิต พรหมจริยสูตร ๒๑/๒๙…

..หลักของการปฏิบัติธรรมนั้นเป็นไปเพื่อความเจริญในธรรม “ไม่เป็นภัยต่อชีวิต ไม่เป็นพิษต่อผู้อื่น ไม่ฝ่าฝืนศีลธรรมอันดีงามเป็นไปโดยชอบ ประกอบด้วยกุศลเป็นมงคลต่อชีวิตและสังคม” นั้นคือสิ่งที่ควรจะศึกษาและนำมาปฏิบัติ เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะและสถานะของตน…

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๔”

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๕๙

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๕๙…

…ธรรมะนั้นเป็นเรื่องของการกระทำภายในจิต ไม่ใช่เพียงคำสอนที่อยู่ในคัมภีร์หรือใบลาน ไม่ใช่การอ่านการท่องให้จำได้แล้วเอาไปอวดรู้

…ธรรมะทั้งหลายนั้นเกิดขึ้นอยู่ที่กายและที่จิต อยู่ในทุกความคิดและทุกอย่างที่กำลังกระทำ เพราะว่าธรรมะนั้นคือธรรมชาติที่แท้จริงของจิต ที่เปลี่ยนแปลงไปตามจังหวะเวลาและโอกาส สอดคล้องกับความเป็นจริงของธรรมชาติทั้งหลาย

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๕๙”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๓๘

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๓๘…

…ย้ำเตือนอยู่เสมอว่า “จงเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านกาลเวลา” ผ่านมาแล้วก็จากไป ทิ้งไว้เพียงความทรงจำที่งดงามตามรายทาง…

…เป็นกรรมกรธรรม ใช้โยธากัมมัฏฐานเพื่อเป็นการเจริญสติและสัมปชัญญะยังให้เกิดประโยชน์ตน ประโยชน์ท่านเป็นลดละซึ่งมานะและอัตตา ความโลภความหลงในโลกธรรม ๘ อันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ดำเนินชีวิตไปตามวิถีทางที่มุ่งหวัง เป็นไปเพื่อให้ความเจริญในธรรมนั้นบังเกิด ชีวิตที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ มันก็คือกำไรของชีวิต…

…อ้อมกอด ของขุนเขา
ใต้ร่มเงา พงพนา
ทบทวน สิ่งผ่านมา
ระลึกรู้ ในทางธรรม

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๓๘”

ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๓

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๓…

…เยาวชน คือฐานรองรับของมวลมนุษย์ การพัฒนาของเยาวชนนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำเพื่อที่จะชี้นำเยาวชนเหล่านั้นไปสู่ทิศทางที่ดี จึงจำเป็นต้องมีแนวทางและแบบอย่างที่ดีในการที่จะให้เยาวชนนั้นได้เรียนรู้และดูเป็นแบบอย่างซึ่งจะมีหลักในการสอนการชี้แนะหลักๆอยู่ ๗ ประการคือ

๑. สอนให้รู้จักหาแหล่งความรู้และแบบอย่างที่ดี

๒. สอนให้รู้จักการใช้ชีวิตรวมหมู่และอยู่ในสังคมอย่างมีระเบียบวินัย

๓. พยายามสร้างแรงจูงใจในการใฝ่ความรู้และความคิดจิตสร้างสรรค์

๔. สร้างความเชื่อมั่นให้แก่เขาเองให้เขามุ่งมั่นพัฒนาตัวเขาเองให้เต็มศักยภาพ

๕. ปรับทัศนคติและค่านิยมของเขาให้รู้จักการใช้เหตุและผล

๖. กระตุ้นให้เขามีความกระตือรือร้นตื่นตัวทุกเวลามีความพร้อมที่จะทำงานทุกเมื่อ

๗. สอนให้เขารู้จักการแก้ปัญหาและพึ่งพาตนเองก่อนที่จะไปหวังพึ่งผู้อื่น…

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๓”

ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๓

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๓…

…“เมื่อเราเพียรเพ่งดูจิต ดูความคิดให้จิตอยู่กับตนเองตลอดเวลาเราก็จะเข้าใจในสังขารร่างกายและจิตของเรา”…

…“ ความว่างทางจิตนั้นคือความว่างจากอารมณ์ยินดี ยินร้ายแต่ไม่ว่างจากตัวรู้ ยังตามดูตามเห็นแต่จิตไม่ไปคิดปรุงแต่ง ”…

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๓”

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๕๘

…บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๕๘…

…อนุวิจฺจการํ กโรหิ…
“จงใคร่ครวญเสียก่อนแล้วจึงค่อยทำ”
…พุทธสุภาษิต อุปาลีวาทสูตร ๑๓/๖๒…

…“นิ่งไม่เป็น โง่ไม่เป็น เป็นใหญ่ยาก” เพราะบางครั้งที่เราแสดงความคิดอวดฉลาดอวดรู้ออกไปนั้น มันเป็นการเอาความโง่ของเราออกมาประจานตัวเราเอง คำพูดและการกระทำ มันสามารถที่จะนำมาวิเคราะห์ว่าเขาเป็นอย่างไร ภูมิธรรมภูมิปัญญาระดับไหน มาจากความจริงใจหรือว่าเป็นมายา เมื่อเรานิ่งสงบย่อมจะมีเวลาที่จะที่ตั้งสติและมีสมาธิในการคิดพิจารณา ศีล สมาธิ ปัญญา คือแนวทางของการแก้ปัญหาทุกอย่างของชีวิต…

…แด่ความนิ่งสงบที่จะสยบความเคลื่อนไหว…

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๕๘”

บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๓๗

…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๓๗…

…กวีธรรมส่องนำทาง…

…กวีธรรมนำทางสร้างชีวิต
กวีธรรมนำจิตนิมิตใหม่
กวีธรรมส่องนำกายและใจ
กวีธรรมทำให้ใจร่มเย็น…

…กวีธรรมทำให้ใจนึกคิด
กวีธรรมชี้ให้จิตนั้นได้เห็น
กวีธรรมสอนพินิจคิดให้เป็น
กวีธรรมที่ได้เห็นนั้นส่องทาง…

…กวีธรรมนำเรื่องราวมาเล่าสู่
กวีธรรมบอกให้รู้ถึงแบบอย่าง
กวีธรรมนั้นเตือนใจให้ละวาง
กวีธรรมคือแบบอย่างเส้นทางธรรม…

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๓๗”

ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๒

…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๒…

…มีพุทธพจน์ที่ทรงตรัสไว้ว่า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย ศีลเป็นพื้นฐานเป็นที่รองรับคุณอันยิ่งใหญ่ประหนึ่งแผ่นดินเป็นที่รองรับและตั้งลงแห่งสิ่งทั้งหลายทั้งที่มีชีพและหาชีพมิได้ เป็นต้นว่าพฤกษาลดาวัลย์ มหาสิงขรและสัตว์จตุบาท ทวิบาทนานาชนิดบุคคลผู้มีศีลเป็นพื้นใจย่อมอยู่สบายมีความปลอดโปร่งเหมือนเรือนที่ปัดกวาด เช็ดถูเรียบร้อย ปราศจากเรือดและฝุ่นเป็นที่รบกวน” ….

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๒”

ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๒

…ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๒…

…เมฆดำปกคลุมทั่วท้องฟ้าสายลมพัดกระโชกผ่านมาเม็ดกล้าแห่งพืชพันธุ์เบ่งบานรอการเริ่มต้นของชีวิตใหม่เป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่าหน้าฝนกำลังจะมาเยือนฤดูกาลใหม่กำลังมาเยือนเปลี่ยนไปตามฤดูกาล…

…กาลเวลาที่ผ่านไปเก็บเกี่ยวอะไรได้มากมายได้รู้และเข้าใจในชีวิตเห็นความถูกผิดในความคิดและสิ่งที่ได้กระทำที่ผ่านมาได้รู้ว่าจุดหมายปลายทางนั้นยังไกลและต้องก้าวเดินต่อไปสู่จุดหมาย…

อ่านเพิ่มเติม “ใคร่ครวญธรรมตามกาลเวลา บทที่ ๒”

บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๕๗

..บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๕๗…

…“การสะสมบุญทำให้มีความสุข สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย”
…พุทธสุภาษิต ธรรมบท๒๕/๒๖…

“…ถ้าไม่ยึดอะไรในสิ่งรู้ ก็จะอยู่อย่างสงบ พบเยือกเย็น…”

…จากหนังสือ “ ฟ้าสางทางสุภาษิตที่ข้าพเจ้าชอบ”…
…หลวงพ่อพุทธทาส โมกขพลาราม ไชยา…

อ่านเพิ่มเติม “บันทึกไว้เพื่อความทรงจำ บทที่ ๕๗”