…ทบทวนใคร่ครวญธรรมในยามเช้า…
…เมื่อเข้าใจและยอมรับในเรื่องของกรรมและวิบากกรรม ความทุกข์ทางกายและทางใจนั้นก็เบาบางลงเพราะว่ารู้ถึงเหตุและปัจจัยที่ทำให้เป็นไป จิตนั้นจึงไม่เข้าไปยึดถือไม่คร่ำครวญโหยไห้ ไม่ตีโพยตีพายวุ่นวายน้อยใจในสิ่งที่เป็นไปของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ยอมรับในวิบากกรรมที่กำลังเป็นไปนั้นและทำหน้าที่ของเราต่อไป ตามเหตุและปัจจัยนั้นให้สมบูรณ์ เต็มกำลังความรู้ความสามารถของเรา ผลมันจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น มันเป็นเรื่องของวิบากกรรม เพราะว่าเรานั้นได้ทำเต็มที่แล้ว
…จงภูมิใจในสิ่งที่ได้ทำไป แล้วใจของเรานั้นก็จะพบกับความสุขไม่มีความทุกข์ ความเป็นตัวกูของกูนั้นเบาบางลง จิตคลายในการยึดถือเพราะว่าเราได้ทำหน้าที่ของเรานั้นสมบูรณ์แล้ว เรื่องกรรมและวิบากกรรมนั้น จึงเป็นสิ่งที่เราท่านทั้งหลายควรที่จะคิดพิจารณา ทำความรู้ความเข้าใจและยอมรับในสิ่งนั้น…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑ เมษายน ๒๕๖๔…