จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๔๓

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๔๓…

…รำพึงธรรมคำกวีผ่านกาลเวลา…

๐ คือม่านเมฆ หมอกหนาว ในราวป่า
เดือนธันวา หน้าหนาว คราวสิ้นฝน
ก่อนที่แสง อาทิตย์ มาเยือนยล
ทุกแห่งหน มีให้เห็น เป็นบุญตา

๐ อยู่ท่ามกลาง ไพรพนา รักษาจิต
เพ่งพินิจ มองเห็น และมองหา
มองให้เห็น กิเลสร้าย ในกายา
เพียรศึกษา เพียรเพิ่ม เสริมปัญญา

๐ เพื่อลดละ อัตตา และมานะ
เพื่อจะละ ซึ่งกิเลส และตัณหา
เพื่อลบรอย ล้างจิต อวิชชา
เพื่อจะพา กายใจ ให้ร่มเย็น

๐ เย็นด้วยธรรม นำใจ บริสุทธิ์
ตามทางพุทธ ศาสตร์ศิลป์ ที่ได้เห็น
เย็นด้วยธรรม นำให้รู้ จึงอยู่เป็น
หมดทุกข์เข็ญ เย็นด้วยธรรม ที่นำทาง

๐ เย็นทั้งนอก เย็นทั้งใน สบายจิต
เมื่อจัดวาง ความคิด ตามแบบอย่าง
รู้จักลด รู้จักละ รู้จักวาง
นำจิตห่าง จากทุกข์ ก็สุขใจ

๐ รู้อะไร ก็ไม่สู้ เท่ารู้จิต
รู้เท่าทัน ความคิด จิตแจ่มใส
รู้อะไร ก็ไม่สู้ เท่ารู้ใจ
ไม่มีใคร รู้จักเรา เท่าเราเอง

๐ สายลมหนาว ทำให้หนาว แต่ภายนอก
จิตมันหลอก เพราะกิเลส มันข่มเหง
ให้หนาวกาย หนาวจิต คิดกลัวเกรง
ใจเราเอง มันหลอกเรา ให้เศร้าใจ….

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔…

คิดไป เขียนไป บทที่ ๘

…คิดไป เขียนไป บทที่ ๘…

…วันเวลาแห่งชีวิตลิขิตไปตามกฎแห่งกรรม สิ่งที่เราเคยได้กระทำมาในอดีตและปัจจุบัน ส่งผลมาสู่วันนี้ทั้งกรรมดีที่เป็นกุศลส่งผลให้พบสิ่งดีและกรรมที่เป็นอกุศลที่ส่งผลมาเป็นอุปสรรคปัญหาสิ่งที่ผ่านมาแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเพราะเป็นอดีต จงยืดอกยิ้มสู้ยอมรับในกฎแห่งกรรมที่ทำมา…

…อดีตคือบทเรียนของชีวิตถูกหรือผิดล้วนแล้วคือบทเรียนทบทวนใคร่ครวญพิจารณาในสิ่งที่ผ่านมา ให้เห็นที่มาและความเป็นไปในชีวิต เพื่อที่จะกำหนดทิศทางใหม่ที่จะก้าวเดิน โดยเอาอดีตนั้นมาเป็นบทเรียน เพราะว่ามันคือบทเรียนแห่งชีวิต

อ่านเพิ่มเติม “คิดไป เขียนไป บทที่ ๘”

บอกกล่าว เล่าเรื่อง บทที่ ๗

…บอกกล่าว เล่าเรื่อง บทที่ ๗…

…จากประสบการณ์ของชีวิตฆราวาสที่ผ่านมาอย่างโชกโชน ได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสมาหมดแล้วทุกวงการทำให้โลกทัศน์ ชีวทัศน์และวิสัยทัศน์ของเรานั้นเปิดกว้าง รับรู้ในข้อมูลทุกอย่างและทุกเรื่อง จึงได้นำเอาประสบการณ์ที่มีอยู่นั้นมาสงเคราะห์อนุเคราะห์ช่วยเหลื่อผู้อื่น โดยใช้การสอดแทรกหลักธรรมการดำเนินชีวิตที่ถูกต้องและสอดคล้องกับวิถีลงไป

อ่านเพิ่มเติม “บอกกล่าว เล่าเรื่อง บทที่ ๗”

คิดไป เขียนไป บทที่ ๗

…คิดไป เขียนไป บทที่ ๗…

…ปลายทางย่อมอยู่ไม่ไกลตราบใดที่เรายังก้าวเดินไปข้างหน้าในเส้นทางที่ถูกต้องตรงไปสู่จุดหมาย…

…ชีวิตคือการทำหน้าที่ ชีวิตที่เหลืออยู่นี้คือการทำหน้าที่ให้ดีที่สุดของความเป็นมนุษย์ให้สมบูรณ์…

….ธรรมอยู่ที่สภาวะภายในของจิตมิใช่อยู่ที่การแสดงออกทางกาย…

อ่านเพิ่มเติม “คิดไป เขียนไป บทที่ ๗”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๔๒

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๔๒…

…การเดินทางของชีวิตนั้น มันเป็นเรื่องของกรรมเก่าในอดีตชาติและกรรมใหม่ในชาตินี้ที่เราได้กระทำมาดั่งที่ได้กล่าวไว้เสมอว่า…

…ไม่ใช่โชคชะตาหรือว่าฟ้าลิขิตไม่ใช่นิมิตของสวรรค์หรือพรหมนั้นท่านบันดาล แต่สิ่งที่ชีวิตต้องพบพานนั้นล้วนเกิดมาจากกรรม…

…กรรมที่เป็นกุศลก็จะส่งผลไปสู่สิ่งที่ดีงาม ส่วนกรรมที่เป็นอกุศลย่อมส่งผลให้ตกต่ำ เมื่อเรายอมรับในเรื่องกฎแห่งกรรม มีความละอายและเกรงกลัวต่อบาป เราก็จะไม่สร้างกรรมที่เป็นอกุศล ชีวิตก็ย่อมจะพ้นจากอบายภูมิ…

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๔๒”

บอกกล่าว เล่าเรื่อง บทที่ ๖

…บอกกล่าว เล่าเรื่อง บทที่ ๖…

…”ผู้ใด มีปัญญาทราม อาศัยทิฏฐิลามกคัดค้านคำสอนของพระพุทธเจ้าซึ่งมีปกติเป็นธรรม พฤติกรรมของผู้นั้นย่อมเป็นไปเพื่อฆ่าตนเหมือนขุยไผ่ฆ่าต้นไผ่”

“โยสาสนํ อรหนฺตํ อริยานํ ธมฺมชีวินํ
ปฏิกฺโกสติ ทุมฺเมโธ ทิฏฺฐึ นิสฺสาย ปาปกํ
ผลานิ กณฺฏกสฺเสว อตฺตฆญฺญาย ผลฺลติ”…
….พุทธสุภาษิต ธรรมบท ๒๕/๓๑…

อ่านเพิ่มเติม “บอกกล่าว เล่าเรื่อง บทที่ ๖”

คิดไป เขียนไป บทที่ ๖

…คิดไป เขียนไป บทที่ ๖…

…แสงธรรมคือแสงทอง….
…“ภิกษุจงเป็นผู้ไม่ประมาท มีสติ มีศีลอันดี จงมีความดำริตั้งมั่นตามรักษาจิตของตนเถิด”

“อปฺปมตฺตา สตีมนฺโต
สุสีลา โหถ ภิกฺขโว
สุสมาหิตสงฺกปฺปา
สจิตฺตมนุรกฺขถ ”…
…พุทธสุภาษิต มหาปรินิพพานสูตร ๑๐/๑๒๐…

อ่านเพิ่มเติม “คิดไป เขียนไป บทที่ ๖”

จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๔๑

…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๔๑…

…จากคนที่ก้าวร้าว ชอบใช้ความรุนแรงพร้อมที่จะปะทะได้ทุกเวลา จากคนที่มากด้วยอัตตา ไม่เคยยอมก้มหัวเป็นลูกน้องใคร จากปีศาจสุราที่ดื่มเหล้าแทนน้ำ เมาหัวราน้ำ

…แต่เมื่อได้เข้าสู่เส้นทางสายธรรมพยายามละลายพฤติกรรมเก่า ๆ นั้นให้จางคลาย เพื่อให้มันหมดสิ้นไปหมั่นสร้างกุศลความดี เพื่อลดกำลังของวิบากกรรมเก่าที่จะส่งผลมา

…แต่ละวันที่ได้ลืมตาและยังมีลมหายใจอยู่นั้น มันจึงเป็นกำไรของชีวิตด้วยบารมีคุณของพระธรรม จึงทำให้ได้มีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้ น้อมกราบคุณของพระรัตนตรัย ที่ทำให้ชีวิตนั้นได้เปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ดี…

อ่านเพิ่มเติม “จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๔๑”

บอกกล่าว เล่าเรื่อง บทที่ ๕

…บอกกล่าว เล่าเรื่อง บทที่ ๕…

…แสงธรรมคือแสงทอง….
…“ภิกษุจงเป็นผู้ไม่ประมาท มีสติ
มีศีลอันดี จงมีความดำริตั้งมั่น
ตามรักษาจิตของตนเถิด”

“อปฺปมตฺตา สตีมนฺโต
สุสีลา โหถ ภิกฺขโว
สุสมาหิตสงฺกปฺปา
สจิตฺตมนุรกฺขถ”…
…พุทธสุภาษิต มหาปรินิพพานสูตร ๑๐/๑๒๐…

…แสงทอง คือแสงธรรม
ที่ชี้นำ สู่เส้นทาง
ส่องโลก ให้สว่าง
ให้ได้เห็น ความเป็นจริง

…ทางโลก นั้นมืดมิด
เพราะว่าจิต ไม่หยุดนิ่ง
วุ่นวาย เพราะหลายสิ่ง
โลกธรรม ชักนำไป

…รักโลภ และโกรธหลง
ใจพะวง ยึดถือไว้
เกิดทุกข์ ระทมใจ
ต้องเวียนว่าย ในวังวน

…แสงธรรม นำชีวิต
ชี้ถูกผิด ไม่สับสน
ลดละ ซึ่งตัวตน
คือมานะ และอัตตา

…สอนให้ ใจเปิดกว้าง
ให้เห็นทาง แก้ปัญหา
ก่อเกิด ซึ่งปัญญา
เพื่อดับทุกข์ สลายไป

…แสงธรรม ส่องนำทาง
แสงสว่าง ที่สดใส
แสงธรรม ผ่องอำไพ
ส่องให้เห็น สัจธรรม

…ทุกสิ่ง ล้วนเกิดดับ
เปลี่ยนสลับ อยู่ประจำ
ยึดถือ ก่อเกิดกรรม
เมื่อปล่อยวาง ก็ว่างลง

…แสงธรรม นำชีวิต
ส่องให้จิต ไม่ลุ่มหลง
แสงธรรม นั้นมั่นคง
ส่องสงบ พบหนทาง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๕…

คิดไป เขียนไป บทที่ ๕

…คิดไป เขียนไป บทที่ ๕…

…“ภิกษุจงเป็นผู้ไม่ประมาท มีสติ
มีศีลอันดี จงมีความดำริตั้งมั่น
ตามรักษาจิตของตนเถิด”
“อปฺปมตฺตา สตีมนฺโต
สุสีลา โหถ ภิกฺขโว
สุสมาหิตสงฺกปฺปา
สจิตฺตมนุรกฺขถ”…
…พุทธสุภาษิต มหาปรินิพพานสูตร ๑๐/๑๒๐…

…ชีวิต จิต วิญญาณ
ต่างต้องการดิ้นรนแสวงหา
เพื่อให้ได้มาซึ่งความสุข
แม้เพียงเศษเสี้ยวเล็กน้อยก็ยินดี
เพื่อที่จะได้มีกำลังใจ ที่จะอยู่สู้ต่อไป

…มนุษย์
เสพสุขอยู่กับความฝัน
จินตนาการไปกับคืนวัน
สร้างฝันเพื่อปลอบใจตนเอง
บางครั้งก็สุขสดชื่นสมหวัง
บางครั้งพลาดพลั้งฝันสลาย
ไม่มีอะไรจริงแท้และแน่นอน

…ฝันไปเถิดเจ้าจงฝัน
ฝันให้ไกลไปให้ถึงซึ่งความฝัน
อย่าท้อแท้เลิกร้างเสียกลางคัน
จงสานฝันนั้นให้เห็นเป็นความจริง
เพื่อเป็นรางวัลแด่ ชีวิต จิต วิญญาณ…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๕…