…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๔๗…
…ธรรมชาติของมนุษย์ทั้งหลายนั้นต่างมีทิฏฐิมานะและอัตตาอยู่ในตัวชอบผลักภาระความผิดไปให้ผู้อื่นไม่ยอมรับความผิดในสิ่งที่ตนได้กระทำไป มักอ้างว่า เพราะสิ่งนั้นเพราะสิ่งนี้ เพราะคนนั้น เพราะคนนี้มันจึงเป็นเช่นนี้ และเมื่อหาคนมารับผิดแทนตนไม่ได้ ก็ไปโทษสิ่งที่ไม่มีชีวิต สิ่งที่มองไม่เห็นตัวตนโทษสถานที่ โทษผีสาง เทวดาให้มารับผิดแทนตน คอยแต่จะโทษผู้อื่นและสิ่งอื่น ไม่ยอมที่จะมามองตนเอง เพื่อที่จะปรับปรุงและแก้ไขตนเอง
…มันจึงเกิดความวุ่นวาย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น ล้วนแล้วมาจากกรรม คือการกระทำของตัวเราเองทั้งในอดีตและปัจจุบันทั้งที่จำได้และจำไม่ได้ ทุกอย่างล้วนมีเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดสิ่งนั้นและสิ่งนี้ ขอเพียงให้เรามีสติระลึกรู้คิดทบทวนใคร่ครวญเราก็จะเห็นเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดของสรรพสิ่งทั้งหลาย ทั้งทางดีและทางร้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา…
…เรียงร้อย ถ้อยคำ นำกล่าว
เรื่องราว ชีวิต เขียนไว้
เหตุการณ์ ที่ได้ ผ่านไป
นำมา อ่านใหม่ ได้ความ
…ใคร่ครวญ ทบทวน นึกคิด
ถูกผิด อย่าได้ มองข้าม
เฝ้าดู เฝ้ารู้ เฝ้าตาม
ทุกยาม สติ ต้องมี
…สติ ระลึก นึกรู้
ตามอยู่ กับกาย ใจนี้
สติ ที่ฝึก มาดี
บ่งชี้ ในสิ่ง ที่ทำ
…หิริ และโอต-ตัปปะ
ธรรมะ มีค่า เลิศล้ำ
ละอาย เกรงกลัว บาปกรรม
ตอกย้ำ ถึงความ เป็นคน
…ยอมรับ ในสิ่ง พลาดผิด
ค้นคิด หาซึ่ง เหตุผล
อย่าคิด เข้าข้าง ฝ่ายตน
ฝึกค้น เป็นกลาง วางใจ
…วางใจ นั้นให้ เป็นกลาง
ทุกอย่าง นั้นควร คิดใหม่
ปรับเปลี่ยน ความคิด ภายใน
เปลี่ยนใจ มองโลก แง่ดี
…อย่าโทษ ผู้อื่น ว่าผิด
มองจิต มองกาย เรานี้
ยอมรับ ในสิ่ง ที่มี
ชั่วดี อยู่ที่ เราทำ
…ทุกอย่าง ล้วนเกิด จากจิต
อย่าให้ ความคิด ใฝ่ต่ำ
กิเลส ตัณหา ครอบงำ
จะนำ ไปสู่ อบาย…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๔…