…บันทึกธรรมย้ำเตือนจิต บทที่ ๕๔…
…คุณค่าของเวลาที่ผ่านมานั้นจัดสรรให้มีค่ามากที่สุด เท่าที่จะทำได้ไม่ปล่อยให้ผ่านเลยไปโดยไร้ซึ่งประโยชน์ทั้งในเรื่องทางโลกและในเรื่องทางธรรมตอกย้ำจิตสำนึกในบทบาทภาระและหน้าที่เพราะวันเวลาของชีวิตที่ได้ผ่านมานั้นมันคือกำไรของชีวิตแห่งการที่ยังมีลมหายใจอยู่
…ชีวิตก้าวข้ามความตายมาหลายครั้งในสมัยที่ยังไม่รู้จักคุณค่าของชีวิตเดินอยู่บนเส้นทางที่พลาดผิดห่างไกลจากธรรม เพลิดเพลินในการประกอบกรรมอันเป็นอกุศล โดยไม่มีความรู้สึกรักตัวและกลัวตาย ในสิ่งที่ทำ ชีวิตที่รอดมาได้จนถึงวันนี้ มันจึงเป็นกำไรของชีวิตเมื่อมีความรู้สึกสำนึกผิด ชีวิตที่เหลือก็ไม่มีอะไรที่น่ากลัว…
…อดีตที่ผ่านมา ฉันคือคนล่าฝันล่องลอยไปในโลกแห่งจินตนาการคิดเข้าข้างตัวเองเสมอมาอาศัยมายาเป็นเครื่องประโลมใจปล่อยให้วันเวลาผ่านไปกับความฝันสุขสมหวังบ้างเป็นครั้งคราวเจ็บปวดรวดร้างผิดหวังบ้างบางเวลาวิ่งไล่ไขว่คว้าตามล่าฝันจนเผลอไปยึดมั่นว่ามันคือความเป็นจริง
…ในโลกแห่งมายาต่างดิ้นรนแสวงหาตามล่าฝันไม่รู้จักจบสิ้นมานานวันปรุงแต่งสร้างฝันกันเรื่อยมาหวังเพียงเศษเสี้ยวของความสุขยอมเหนื่อยยากทนทุกข์แสวงหาเวียนว่ายวังวนในโลกแห่งมายาด้วยสำคัญมั่นหมายว่าเป็นสัจธรรมที่ผ่านมาฉันคือคนโง่คนหนึ่ง…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๔…