…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๗๘…
…จะสุขใด ไหนเท่า สุขในธรรม…
๐ เจริญจิต เจริญใจ ปฏิบัติ
เพื่อขจัด ซึ่งกิเลส และตัณหา
เพื่อเสริมสร้าง จิตใจ ให้ศรัทธา
ภาวนา ให้สงบ พบที่ใจ
๐ จงดูกาย ดูจิต พร้อมดูธรรม
ดูแล้วนำ มาคิด วินิจฉัย
ดูให้เห็น ในสิ่ง ที่เป็นไป
ให้เข้าใจ สิ่งที่เห็น ความเป็นมา
๐ มองหาเหตุ ปัจจัย มองให้เห็น
สิ่งที่เป็น บ่อเกิด ของปัญหา
ใช้ความคิด ใช้สติ ใช้ปัญญา
จงมองหา มองให้เห็น ความเป็นจริง
๐ ชีวิตนี้ ย่อมมี อุปสรรค
เป็นตามหลัก เปลี่ยนไป ในทุกสิ่ง
อนิจจา ไม่เที่ยง คือความจริง
สรรพสิ่ง ย่อมผันแปร ไม่แน่นอน
๐ เมื่อมีได้ ก็ย่อม จะมีเสีย
เมื่ออ่อนเพลีย ควรตั้งหลัก หยุดพักผ่อน
ให้จิตใจ เข้มแข็ง และแน่นอน
แล้วค่อยย้อน มาแก้ไข ให้ทันการ
๐ การกดดัน ตนเอง เกรงจะเสีย
กายอ่อนเพลีย และจิตใจ ไม่อาจหาญ
ทำสิ่งใด ไม่สำเร็จ เสร็จตามกาล
สิ่งที่ผ่าน ไม่เห็นชัด เพราะอัตตา
๐ ทุกปัญหา ย่อมมีทาง จะแก้ไข
อยู่ที่ใจ ยอมละ ซึ่งตัณหา
ความอยากมี อยากได้ ที่เป็นมา
คือตัณหา ความโลภ ที่ครอบงำ
๐ เมื่อไม่ยอม เสียสละ ก็ละยาก
ต้องลำบาก ทำชีวิต ให้ตกต่ำ
ก่อให้เกิด การจองเวร และสร้างกรรม
บุญไมทำ แต่กรรมผิด ติดตามตน
๐ เพราะตัณหา อัตตา และมานะ
ที่ไม่ละ ไม่วาง จึงให้ผล
ต้องกลุ้มใจ ไร้สุข ต้องทุกข์ทน
นั้นคือผล ของกรรม ที่ทำมา
๐ ความพอดี พอเพียง เลี้ยงชีวิต
รู้ถูกผิด ในกิเลส และตัณหา
รู้แล้วละ รู้แล้ววาง ด้วยปัญญา
จะนำพา ชีวิต จิตเจริญ
๐ เจริญธรรม ล้ำเลิศ ประเสริฐนัก
มีคนรัก คนชม และสรรเสริญ
เจริญธรรม นำใจ ให้เพลิดเพลิน
สุขใดเกิน สุขในธรรม องค์สัมมา
๐ สุขทางโลก นั้นไม่นาน ก็จางหาย
พอสุขคลาย จิตก็ทุกข์ มีปัญหา
สุขในธรรม นั้นดำรง ทรงเรื่อยมา
ก็เพราะว่า ใจนั้น มันเพียงพอ…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๕…