…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๘๓…
…บอกกล่าวแก่พระที่อยู่ร่วมด้วยเสมอว่า เสน่ห์ของวัดป่านั้นคือ ความสะอาดและความมีระเบียบวินัย ไม่ใช่อยู่ที่สิ่งก่อสร้างที่วิจิตรอลังการ ยามเช้ากวาดลานธรรมให้แก่คน ยามเย็นกวาดสถานที่ให้เทวดาและเป็นการบริหารร่างกายไปในตัว…
…ร่วงหล่นบนทางเท้า
ทุกค่ำเช้าเฝ้าปัดกวาด
รักษาความสะอาด
มิให้ขาดในทุกวัน
…ใบไม้เจ้าร่วงหล่น
ตามกาลกลเป็นเช่นนั้น
ร่วงหล่นทุกคืนวัน
เปลี่ยนแปรผันตามเวลา
…ร่วงหล่นลงสู่พื้น
ร่วงลงคืนพสุธา
ตามกาลและเวลา
มีเกิดมามีดับไป
…ใบไม้ให้ร่มเงา
เมื่อยามเจ้าเขียวสดใส
ไม่นานก็จากไป
ใบไม้ใหม่มาทดแทน
…ร่วงหล่นลงสู่พื้น
เจ้ากลับคืนสู่ดินแดน
มิเคยจะหวงแหน
เจ้าทดแทนคุณแผ่นดิน
…เปื่อยเน่าย่อยสลาย
มีความหมายไปทั้งสิ้น
พันธุ์ไม้ได้ดูดกิน
ตอบแทนดินถิ่นที่มา
…ใบไม้แม้นน้อยนิด
แต่ชีวิตไม่ไร้ค่า
ตั้งแต่กำเนิดมา
มีคุณค่านับอนันต์
…คนเรานั้นควรคิด
ถึงชีวิตที่เป็นนั้น
ผ่านคืนและผ่านวัน
เคยสร้างสรรค์ประโยชน์ใด
…ชีวิตอย่าไร้ค่า
อย่าน้อยกว่าเจ้าใบไม้
รีบสร้างหนทางไป
เพื่อสิ่งใหม่ที่มั่นคง
…มั่นคงดำรงอยู่
และเป็นผู้ไม่โลภหลง
ความดีนี้ยืนยง
จะเสริมส่งซึ่งศรัทธา
…ชีวิตที่เหลืออยู่
จงเรียนรู้และศึกษา
เสริมสร้างทางปัญญา
และรักษาคุณธรรม
…คุณธรรมนำชีวิต
คุ้มครองจิตและชี้นำ
ก่อเกิดกุศลกรรม
ที่จะนำสู่ความดี….
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕…