…รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๘๕…
…ตั้งแต่ออกพรรษาผ่านมาหกเดือนกว่ามีภารกิจมากมายต้องเดินทางไปทำหน้าที่ตามที่เขาได้นิมนต์เอาไว้ตลอดเพื่อเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาเหมือนดั่งคำที่เคยกล่าวไว้ว่า “ยามอยู่ให้เขาสบายใจยามจากไปให้เขาคิดถึง” ซึ่งสิ่งที่จะทำอย่างนั้นได้ก็ต้องอาศัยการประพฤติปฏิบัติตัวของเราให้มีคุณค่าต่อสังคมไม่ว่าจะไปอยู่ ณ ที่ใด จงเป็นผู้ให้อย่าไปเป็นผู้ร้องขอ และจงก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสถานที่และบุคคลจงยอมสละประโยชน์สุขส่วนตนเพื่อบุคคลรอบข้าง แล้วทุกอย่างจะกลับคืนมาหาตัวเราในภายหลัง…
…การเป็นผู้ให้ย่อมได้รับการให้ตอบในภายหลัง ถ้าเราให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนในการให้ของเรานั้น วันเวลาที่ผ่านพ้นไปคือบททดสอบความอดทนของเรา ว่าเรามีศรัทธามั่นคงเพียงใดในสิ่งที่เรากระทำการดำเนินชีวิตของเรานั้นต้องเป็นไปโดยชอบและประกอบด้วยกุศลเพื่อให้เป็นมงคลต่อชีวิตโดยมีคติที่ว่า ไม่เป็นภัยต่อชีวิตไม่เป็นพิษต่อต่อผู้อื่น ไม่ฝ่าฝืนธรรมวินัยและศีลธรรมอันดีงาม
…สิ่งที่มีความสำคัญของชีวิตก็คือการมีสติและสัมปชัญญะที่เป็นสัมมาทิฏฐิมีความคิดที่เป็นกุศล มีความเพียรและความอดทน หมั่นอบรมกายและจิตของตนให้ทรงอยู่ในกุศลธรรมในการดำเนินชีวิตประจำวัน จงอย่าพยายามสร้างความกดดันให้แก่ตนเองมากจนเกินไป โดยการที่มุ่งหวังจะได้ผลสำเร็จในการกระทำโดยเร็ว ทุกสิ่งทุกอย่างต้องอาศัยเหตุและปัจจัยที่เหมาะสมและลงตัว ความสำเร็จนั้นมันจึงจะบังเกิดขึ้นเป็นรูปธรรม…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕…