…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๘๗…
…กล่าวธรรมพร่ำบอกเสมอว่าไม่ใช่โชคชะตา หรือว่าฟ้าลิขิตไม่ใช่นิมิตของสวรรค์หรือพรหมนั้นท่านบันดาล แต่สิ่งที่ทุกชีวิตต้องประสพพบพาน ล้วนเกิดจากการกระทำ เพราะกรรมคือผู้กำหนดอนาคตที่จะต้องประสพ ล้วนเกิดจากกรรม ทุกชีวิตต่างดิ้นรนแสวงหาเพื่อให้ได้มาซึ่งความสุขแม้นจะต้องแลกด้วยทุกข์อย่างแสนสาหัส เพียงเพื่อสนองตอบความต้องการทะยานอยาก ซึ่งมีมากอย่างไม่มีที่สิ้นสุดซ่อนอยู่ในจิตใจของมนุษย์ ทุกชีวิตต้องทนทุกข์ทรมานเพราะว่าการแสวงหาเพื่อให้ได้มาซึ่งลาภ ยศและสรรเสริญเพลิดเพลินในกิน กาม เกียรติปรารถนาให้ชีวิตประสพความสำเร็จต่างคนต่างฝันไว้ไกลและอยากจะไปให้ถึง ซึ่งไม่มีวันจะสิ้นสุดถ้าจิตของมนุษย์ไม่รู้จักพอ
…ความสำเร็จของชีวิต อยู่ที่จิตคิดว่าพอ…
๐ คนพูด มักไม่ทำ
ชอบกล่าวคำ เสนอแนะ
คนทำ จึงเป็นแพะ
เหมือนลูกแกะ ต้องรับกรรม
๐ พูดดี ดีแต่พูด
ไปตามสูตร แต่ไม่ทำ
จึงกลาย เป็นพูดพร่ำ
ทุกถ้อยคำ ที่พร่ำมา
๐ รู้มาก จึงยากนาน
รู้แต่การ เจรจา
รู้ไป ก็ไร้ค่า
ก็เพราะว่า ไม่เคยทำ
๐ชอบติ เสนองาน
ชอบวิจารณ์ กล่าวถ้อยคำ
ชอบพูด ไม่ชอบทำ
มีประจำ ในสังคม
๐ คนทำ จึงต้องทน
ต้องฝึกฝน ให้เหมาะสม
ควบคุม ในอารมณ์
ให้กลืนกลม กับเหตุการณ์
๐ จังหวะ และเวลา
โอกาสมา ให้ประสาน
เงินทุน ต้องพอการ
คนทำงาน ต้องมีพอ
๐ คิดดี ทำไม่ได้
เมื่อคิดไป ได้แต่รอ
ความคิด ไม่เติมต่อ
ไม่ได้ก่อ รูปธรรม
๐ เป็นได้ เพียงความฝัน
ไม่มีวัน จะได้ทำ
ความคิด ที่เลิศล้ำ
ไม่อาจนำ มาทำจริง
๐ ควรคิด ให้เหมาะสม
ให้กลืนกลม กับทุกสิ่ง
คิดแล้ว ทำได้จริง
ใช่คิดทิ้ง คิดเลื่อนลอย
๐ คิดได้ และทำได้
คือคิดไป เพื่อใช้สอย
คิดแล้ว ไม่ต้องคอย
คิดให้น้อย ทำได้จริง…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๕…