…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๒๒…
…“สีเส ปะติฏฐายะ นะโร สะปัญโญ จิตตัง ปัญญัญจะ อาตาปี นิปะโก ภิกขุ โส อิมัง วิชะฏะ เยชะฏันติ” …
…บุคคลผู้ตั้งอยู่ในศีล ทำสมาธิให้เกิดยังวิปัสสนาปัญญาให้เกิด บุคคลนั้นก็จะสางซึ่งความยุ่งเหยิง ความสับสนในโลกนี้ได้…
…รู้จริง เห็นจริง แต่สิ่งที่รู้ที่เห็นอาจจะไม่จริง อย่ารีบเชื่อทันที ในสิ่งที่รู้ที่เห็นเพราะอาจจะเป็นสิ่งที่นำมาซึ่งความงมงายอย่าปฏิเสธในทันที จะทำให้เสียโอกาสจงพิจารณาเข้าหาหลักธรรม ว่าถูกต้องสอดคล้องกับหลักธรรมหรือไม่แล้วจึงเชื่อหรือปฏิเสธ…
…มรรคาแห่งความเป็นสมณะไร้นาม…
…กาพย์ยานี ๑๑…
…อดทน หมั่นฝึกฝน
หมั่นฝึกตน ให้เคยชิน
การอยู่ และการกิน
ให้เรียบง่าย ไม่วุ่นวาย
…เรียบง่าย ไร้รูปแบบ
แต่อิงแอบ
ด้วยความหมาย
สาระ มีมากมาย
ไม่ยึดติด ให้ผูกพัน
…เรียบง่าย ไม่มักง่าย
คือความหมาย ในตัวฉัน
สาระ เป็นสำคัญ
ที่มุ่งหมาย ให้มันมี
…เรารู้ อยู่แก่จิต
ถ้าพินิจ ให้ถ้วนถี่
ที่คิด และที่มี
ต่างก็รู้ อยู่แก่ใจ
…อยู่ที่ จิตสำนึก
ความรู้สึก จากข้างใน
มากน้อย ขนาดไหน
สิ่งที่คิด กิจที่ทำ
…ชั่วดี ใจนั้นรู้
มันขึ้นอยู่ กับเวรกรรม
อยู่ที่ คุณธรรม
มีหรือไม่ ในใจตน
…สิ่งชั่ว ก็ควรละ
ใช้ตรรกะ เหตุและผล
ทำดี มีอดทน
รักษาไว้ ให้ยืนยาว
…มากเรื่อง ไม่เรื่องมาก
ลดความอยาก ทุกเรื่องราว
ทำใจ สะอาดขาว
ว่างกิเลส ละอัตตา
…มองสิ่ง ที่มันเป็น
มองให้เห็น ซึ่งเนื้อหา
ฝึกฝน เริ่มต้นมา
จากความคิด ด้วยจิตใจ
…รอคอย อย่างอดทน
หมั่นฝึกฝน กันต่อไป
ยาวนาน ขนาดไหน
อย่าได้ท้อ จงรอคอย
…ขันติ ความอดทน
หมั่นฝึกฝน มิท้อถอย
สิ่งหวัง ตั้งใจคอย
ความสำเร็จ ก็มีมา….
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑๐ ธันวาคม ๒๕๖๔…