…จากการเดินทางบนสายธรรม บทที่ ๕๘…
…“จงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย แต่อย่าได้มักง่ายในการใช้ชีวิต” ชีวิตที่เรียบง่ายนั้นเป็นไปโดยหลักแห่งความพอเพียงในการเลี้ยงชีวิต ยังคงทำกิจตามบทบาทและหน้าที่ของตน มีความอดทน ขยันขันแข็งมีระเบียบวินัยของชีวิต เพียงแต่จิตนั้นไม่ทะเยอทะยานอยาก ฟุ้งเฟ้อไปมากกว่ากำลังของตนเองที่มีอยู่ ทำให้ชีวิตนั้นมีความสงบสุข ไม่ทุกข์กับการดิ้นรนเพื่อสนองตอบตัณหาความอยากของตนเอง
…ส่วนการมักง่ายในการใช้ชีวิต นั้นเกิดมาจากจิตที่เกียจคร้านทอดทิ้งธุระที่ตนนั้นพึงกระทำ ไม่ยอมทำตามบทบาทและหน้าที่ของตน ไม่มีความขยันและอดทน เป็นคนไม่มีระเบียบวินัยของชีวิต ไม่รู้จักคิด คิดไม่เป็นเพราะไม่มีวิจารณญาณ ต้องการเพียงตอบสนองตัณหาความอยากของตนเอง ขาดซึ่งจิตสำนึกต่อส่วนรวม ทำแต่ในสิ่งเป็นประโยชน์แก่ตนเพียงอย่างเดียว ถ้าตนไม่ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน จะไม่ลงมือกระทำ ไม่สนใจสังคมรอบข้างว่าจะมีผลกระทบอย่างไร จิตใจมักจะคับแคบเห็นแก่ตัว
…คนที่ขี้เกียจมักง่ายนั้น มักจะอ้างว่าตนเป็นผู้ปล่อยวาง ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายเพราะเขาไม่อยากขวนขวายทำกิจของตนที่ต้องพึงกระทำ ดั่งคำครูบาอาจารย์ได้กล่าวสอนไว้ให้พิจารณา…
…จงอยู่อย่างเรียบง่าย แต่อย่าอยู่อย่างมักง่าย
…จงพยายามปล่อยวาง แต่อย่าได้ทอดทิ้งธุระ
…จงพูดแต่สิ่งที่ดี แต่อย่าดีแต่พูด จงลงมือทำด้วย
…จงอยู่อย่างไร้รูปแบบ แต่อย่าไร้ซึ่งระเบียบวินัย
…เมื่อมีระเบียบวินัยต่อชีวิต กฎกติกาก็ไม่ต้องกำหนด
…ความเจริญในธรรมทั้งหลายเกิดได้ด้วยกุศลจิต
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๑๖ มกราคม ๒๕๖๕…