ปรารภธรรมและคำกวีก่อนทำวัตรเช้า

…ปรารภธรรมและคำกวีก่อนทำวัตรเช้า…

…ธรรมชาติของมนุษย์ทั้งหลายนั้นต่างมีทิฏฐิมานะและอัตตาอยู่ในตัวชอบผลักภาระความผิดไปให้ผู้อื่นไม่ยอมรับความผิดในสิ่งที่ตนได้กระทำไป มักอ้างว่า เพราะสิ่งนั้นเพราะสิ่งนี้ เพราะคนนั้น เพราะคนนี้มันจึงเป็นเช่นนี้ และเมื่อหาคนมารับผิดแทนตนไม่ได้ ก็ไปโทษสิ่งที่ไม่มีชีวิต สิ่งที่มองไม่เห็นตัวตนโทษสถานที่ โทษผีสาง เทวดาให้มารับผิดแทนตน คอยแต่จะโทษผู้อื่นและสิ่งอื่น ไม่ยอมที่จะมามองตนเอง เพื่อที่จะปรับปรุงและแก้ไขตนเอง

…มันจึงเกิดความวุ่นวาย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น ล้วนแล้วมาจากกรรม คือการกระทำของตัวเราเองทั้งในอดีตและปัจจุบันทั้งที่จำได้และจำไม่ได้ ทุกอย่างล้วนมีเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดสิ่งนั้นและสิ่งนี้ ขอเพียงให้เรามีสติระลึกรู้คิดทบทวนใคร่ครวญเราก็จะเห็นเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดของสรรพสิ่งทั้งหลาย ทั้งทางดีและทางร้ายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา…

…ตถตา…มันจึงเป็นเช่นนั้นเอง…(กลอน ๙ )

๐ คิดว่าใช่ อาจไม่ใช่ อย่างที่คิด
ถูกหรือผิด ใครตัดสิน ในปัญหา
ความคิดเห็น ที่เป็นไป ตามอัตตา
ใช่จะว่า สิ่งที่เห็น นั้นเป็นจริง

๐ เมื่อเห็นธรรม ก็จะเห็น ความเป็นโลก
สุขหรือโศก นั้นมีใน สรรพสิ่ง
เมื่อเห็นโลก และเห็นธรรม ตามความจริง
สรรพสิ่ง นั้นล้วนเป็น “ตถตา”

๐ ตถตา คือแบบว่า เป็นเช่นนั้น
ล้วนผูกพัน ก่อกำเนิด เกิดปัญหา
มีเหตุผล และปัจจัย ให้เกิดมา
ก็เพราะว่า มันเป็น เช่นนั้นเอง

๐ สรรพสิ่ง ล้วนมีกรรม นั้นกำหนด
ไปตามบท กฎแห่งกรรม ที่ตามเร่ง
ดีหรือชั่ว ตัวเรารู้ ด้วยตนเอง
อย่าอวดเก่ง และอวดรู้ ไม่สู้ดี

๐ เพราะศักดิ์ศรี คือที่มา ของมานะ
เมื่อเป็นพระ ควรลดละ เรื่องศักดิ์ศรี
ถอนมานะ ละอัตตา อย่าให้มี
เป็นสิ่งที่ สมณะ ควรกระทำ

๐ โลกทัศน์ นำไปสู่ ชีวทัศน์
ควรฝึกหัด มองให้เห็น ความเหลื่อมล้ำ
เพราะทุกอย่าง นั้นมันเป็น เรื่องของกรรม
คิดแล้วทำ ทำให้เห็น “ตถตา”

๐ ทุกสิ่งอย่าง มันก็เป็น ไปเช่นนั้น
กรรมจัดสรร ให้เป็นไป ตามเนื้อหา
เกิดจากกรรม ที่กระทำ นั้นนำมา
ทุกชีวา ไปตามบท กฎแห่งกรรม

๐ ความเหลื่อมล้ำ เกิดจากกรรม นั้นกำหนด
นี้คือกฎ ธรรมชาติ อันลึกล้ำ
พระไตรลักษณ์ นั้นคือหลัก สัจธรรม
กฎแห่งกรรม มันจึงเป็น เช่นนั้นเอง…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๕…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *