…รำพึงธรรมในยามก่อนรุ่งอรุณ…
…ธรรมทั้งหลายเป็นสัจธรรมแต่ที่ไม่เที่ยงและไม่ใช่ตัวตนคือการปรับใช้ที่ต้องแปรเปลี่ยนไปเพื่อให้เหมาะสมกับเหตุและปัจจัยที่เห็นและเป็นอยู่
…ซึ่งถ้าเราไม่รู้จักปรับใช้ให้เหมาะสมมันก็จะกลายเป็น “สีลพรตปรามาส” คือการยึดถือในข้อวัตรที่เคร่งครัดสุดโต่งจนเกินไป กลายเป็นการยึดถือเพราะอัตตาซึ่งจะนำมา ซึ่งมานะทิฐิคือการถือตัวถือตนในโอกาสต่อไป
…ไม่มีสิ่งใดดีที่สุดหรือถูกต้องที่สุด แต่จะมีเพียงความเหมาะสมที่สุดเหมาะสมกับจังหวะ เวลา โอกาสสถานที่และตัวบุคคล อันเป็นเหตุและปัจจัยในขณะนั้น
…พระพุทธองค์ทรงตรัสธรรมมากมายถึง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ก็เพื่อให้เหมาะสม สอดคล้องกับจังหวะ เวลาโอกาส สถานที่และตัวบุคคลในขณะนั้นธรรมที่พระพุทธองค์ทรงตรัสนั้นคือปัจจุบันธรรม…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๕…