…ใคร่ครวญธรรมในยามดึก…
…วันเวลาแห่งชีวิตลิขิตไปตามกฎแห่งกรรมสิ่งที่เราเคยได้กระทำมาในอดีตและปัจจุบันส่งผลมาสู่วันนี้ทั้งกรรมดีที่เป็นกุศลส่งผลให้พบสิ่งดีและกรรมที่เป็นอกุศลที่ส่งผลมาเป็นอุปสรรคปัญหา สิ่งที่ผ่านมาแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เพราะเป็นอดีต จงยืดอกยิ้มสู้ยอมรับในกฎแห่งกรรมที่ทำมา…
…อดีตคือบทเรียนของชีวิต ถูกหรือผิดล้วนแล้วคือบทเรียน ทบทวนใคร่ครวญพิจารณาในสิ่งที่ผ่านมา ให้เห็นที่มาและความเป็นไปในชีวิต เพื่อที่จะได้กำหนดทิศทางใหม่ที่จะก้าวเดิน โดยเอาอดีตนั้นมาเป็นบทเรียน..บทเรียนแห่งชีวิต…
…จุดหมายปลายทางยังอยู่อีกยาวไกล….
๐ คนไร้ราก ร่อนเร่ พเนจร
ไร้ถิ่นฐาน ถาวร อยู่อาศัย
เพราะเกิดมา มีกรรม จึงทำใจ
ร่อนเร่ไป ตามหน้าที่ เพราะมีกรรม
๐ เคยคิดหยุด ปักหลัก อยากพักบ้าง
หยุดการสร้าง การสอน ที่ซ้ำซ้ำ
ปลีกวิเวก ภาวนา ศึกษาธรรม
แต่ว่ากรรม ยังไม่หมด ต้องอดทน
๐ ฝันไว้ไกล ยังไม่ถึง ซึ่งที่ฝัน
เพราะสิ่งนั้น เปลี่ยนไป ในทุกหน
ต้องพบปะ มากมาย หลายผู้คน
ต้องคิดค้น สงเคราะห์ ให้เหมาะงาน
๐ จึงทำใจ ทำจิต คิดแบบใหม่
มาฝึกใจ ฝึกจิต คิดประสาน
เอาธรรมะ มาใช้ ในการงาน
ให้เป็นการ เจริญจิต ภาวนา
๐ มีสติ ระลึกรู้ อยู่กับกาย
ไม่วุ่นวาย กับการ แสวงหา
พึ่งพอใจ ในสิ่ง ที่ได้มา
เอาตัณหา ละตัณหา ตั้งหน้าทำ
๐ ทำหน้าที่ ของตน ตามบทบาท
ไม่ประมาท พาใจ ให้ตกต่ำ
ให้กิเลส ตัณหา เข้าครอบงำ
เจริญธรรม เจริญจิต ด้วยคิดดี
๐ การเดินทาง นั้นยัง ไม่สิ้นสุด
ยังไม่หยุด หายใจ ไม่ถึงที่
เพื่อให้เรา ได้สร้าง บารมี
ทำความดี ต่อไป ให้มันเต็ม…
… ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๑ มิถุนายน ๒๕๖๕…