…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๘…
…ธรรมทั้งหลายทั้งปวงนั้น เป็นสภาวะแห่งปัตจัตตัง คือรู้ได้เฉพาะตนโดยการปฏิบัติ การศึกษาปริยัติ การอ่าน การฟังนั้นเป็นเพียงขั้นพื้นฐาน เป็นเพียงการเก็บข้อมูลหาแนวทาง หาแบบอย่างที่จะนำไปปฏิบัติ
…เพียงแต่ฟัง เพียงแต่อ่าน เพียงแต่คิดนั้น จิตยังไม่ถือว่าเข้าถึงธรรม จำได้พูดได้และเข้าใจ สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงความคิด เป็นเพียงนามธรรม เป็นเพียงความฝัน เป็นเพียงการจินตนาการตราบใดที่ยังไม่ได้เอาธรรม ที่ได้ยินได้ฟังได้ศึกษานั้นนำมาปฏิบัติกับตนก็เป็นได้เพียงนกแก้วนกขุนทองที่ท่องได้ พูดได้ เป็นเพียงใบลานเปล่าเพราะว่ายังไม่เข้าถึงสภาวธรรมที่แท้จริง
…รู้ธรรม เห็นธรรม เข้าใจธรรม แต่ยังไม่ได้ทำ จึงยังเข้าไม่ถึงธรรมและไม่มีธรรมเป็นเครื่องอยู่ เพราะยังไม่ได้อยู่ในธรรม…
…รำพันยามพักเหนื่อย…
…อดีตคือบทเรียน… ( กลอนหก)
๐ อดีต นั้นคือ บทเรียน
ขีดเขียน บันทึก เล่าขาน
บอกเล่า กล่าวถึง ตำนาน
เหตุการณ์ ที่มัน ผ่านมา
๐ ผ่านร้อน ผ่านฝน ผ่านหนาว
เรื่องราว มากมาย หนักหนา
ก้าวผ่าน ซึ่งกาล เวลา
นำมา เล่าสู่ กันฟัง
๐ เมื่อหวน ครวญคิด ใคร่ครวญ
ทบทวน เรื่องราว หนหลัง
เคยผิด หลงทาง พลาดพลั้ง
สิ้นหวัง และสิ้น ศรัทธา
๐ เคยเขียน บทความ กวี
ยุคที่ ต่อสู้ ค้นหา
บอกเล่า เรื่องราว ผ่านมา
รู้ว่า มันเป็น เช่นไร…
๐ เสียศุนย์ หรือฉัน สูญเสีย
ฉันเหนื่อย ฉันเพลีย ไฉน
ฉันพ่าย ฉันแพ้ หรือไร
หวังไว้ ไม่สม ซมซาน
๐ หวังคิด จะสร้าง โลกใหม่
ด้วยใจ ฮึกเหิม ห้าวหาญ
มุ่งมั่น มากด้วย อุดมการณ์
สร้างงาน ด้วยแรง ศรัทธา
๐ ชุมนุม เรียกร้อง ต่อสู้
เคียงคู่ ผู้มี ปัญหา
กรรมกร ชาวไร่ ชาวนา
ร้องหา ซึ่งความ เป็นธรรม
๐ ความคิด และจิต อาสา
นำมา ซึ่งความ ชอกช้ำ
ก้าวเดิน สู่ความ มืดดำ
ถลำ เข้าสู่ วังวน
๐ การเมือง คือเรื่อง ตัณหา
อัตตา นั้นคือ เหตุผล
แอบอ้าง ว่าเพื่อ มวลชน
แต่ตน ได้ผล ตอบแทน…
๐ การเมือง ไม่มี มิตรแท้
ผันแปร ไม่เป็น ปึกแผ่น
มุ่งหวัง เพียงสิ่ง ตอบแทน
ทั่วแดน ต่างรู้ กันดี…
๐ นี่คือ นิยาม การเมือง
เป็นเรื่อง เกิดได้ ทุกที่
เพราะว่า ศีลธรรม ไม่มี
โลกนี้ จึงได้ วุ่นวาย
๐ เกิดจาก กิเลส ตัณหา
อัตตา ความอยาก ทั้งหลาย
ความอยาก ที่มี มากมาย
สุดท้าย ไม่พ้น เวรกรรม
๐ ใครทำ ก็ต้อง ชดใช้
ทำให้ ชีวิต ตกต่ำ
กิเลส ที่เข้า ครอบงำ
เรื่องกรรม ไม่อาจ ต่อรอง
๐ ทำดี ดีนั้น ส่งเสริม
ต่อเติม ไม่มี หม่นหมอง
ชีวิต ไปตาม ครรลอง
คุ้มครอง ชีวิต ด้วยธรรม…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๑ กันยายน ๒๕๖๕…