…ใคร่ครวญธรรมไปตามกาล บทที่ ๗๒…
…บางครั้งความคุ้นเคยและความเคยชิน มันอาจจะนำไปสู่ความหย่อนยาน จนกลายเป็นความขี้เกียจมักง่าย ถ้าเราไม่หมั่นตรวจสอบควบคุมจิตของเราไม่มีความรับผิดชอบต่อภาระหน้าที่ ข้อวัตรปฏิบัติมันก็จะนำไปสู่ความเสื่อม จิตคล้อยตามไปในกระแสโลก ออกห่างจากทางธรรมแต่ถ้าเรามีความมั่นคง มีศรัทธาที่หนักแน่น ตามดู ตามรู้จิตนั้นอยู่เสมอไม่พลั้งเผลอขาดสติและองค์แห่งคุณธรรมแล้ว ความเสื่อมย่อมไม่เกิดขึ้นแก่เรา ความเจริญในธรรมทั้งหลายก็จะบังเกิดขึ้นแก่ผู้ที่ปฏิบัติเช่นนั้น สิ่งสำคัญมันอยู่ที่จิตสำนึกแห่งการใฝ่ดี ว่าเรานั้นมีแล้วหรือยังและเราได้ทำในสิ่งนั้นแล้วหรือยัง…
…เพียงคุณเปลี่ยนความคิดชีวิตเปลี่ยน…
…พบสิ่งใหม่ และที่ใหม่ ใจจะตื่น
จะพลิกฟื้น จิตใหม่ ให้ค้นหา
เพราะที่ใหม่ สิ่งใหม่ นั้นแปลกตา
อยากรู้ว่า สิ่งที่เห็น เป็นเช่นไร
…เมื่อได้ดู ได้รู้ และได้เห็น
มันก็เป็น อย่างนั้น สิ้นสงสัย
ความแปลกตา แตกตื่น ก็หมดไป
จากสิ่งใหม่ กลายเป็นเก่า ก็เท่ากัน
…ความคุ้นเคย อาจทำให้ ใจนั้นหย่อน
จิตถอดถอน หย่อนยาน ไม่แข็งขัน
ความเคยชิน นั้นทำให้ ใจผูกพันธุ์
เห็นทุกวัน ทำทุกวัน กันเรื่อยไป
…แต่ถ้าใจ ของเรา นั้นตั้งมั่น
จะกี่ปี หรือกี่วัน และที่ไหน
ทุกอย่างเกิด จากจิต และจากใจ
คิดอะไร ทำอะไร ใจมั่นคง
…มีสัจจะ รับผิดชอบ ต่อหน้าที่
สิ่งที่มี สิ่งที่เป็น ไม่ลืมหลง
รักษาจิต รักษาใจ ให้ยืนยง
และมั่นคง ต่อข้อวัตร ด้วยศรัทธา
…จิตสำนึก การใฝ่ดี นั้นมีอยู่
จิตรับรู้ เร่งฝึกฝน เพื่อค้นหา
ปลุกสำนึก การใฝ่ดี ให้ตื่นมา
เพื่อนำพา สู่ชีวิต ทิศทางดี
…ต้องเริ่มทำ ที่ตัวเรา เอาแบบอย่าง
สู่เส้นทาง สายใหม่ ในวิถี
ลบสลาย พฤติกรรม ที่ไม่ดี
ที่มันมี ที่มันทำ แต่ก่อนมา
…เพียงคุณเปลี่ยน ความคิด ชีวิตเปลี่ยน
ไม่วนเวียน อยู่ใน ห้วงตัณหา
มีสติ คุณธรรม นำปัญญา
ก็จะพา สู่ชีวิต นิมิตดี
…ทุกสิ่งนั้น ไม่ยาก เกินแก้ไข
ถ้าหากใจ ยอมทำ ตามหน้าที่
รับผิดชอบ ในบทบาท ตามที่มี
เพียงเท่านี้ ก็ชื่อว่า เข้าหาธรรม…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๕ กันยายน ๒๕๖๕…