…คิดไป เขียนไป บทที่ ๔…
…ในอ้อมกอดของขุนเขา
ใต้ร่มเงาของมวลพฤกษา
บนจุดหนึ่งของกาลเวลา
จงมีสติเตือนตนเสมอว่า
มีความปรารถนาซึ่งสิ่งใด
ทบทวนสิ่งที่ได้ผ่านมาใหม่
ว่าสิ่งที่ตั้งความหวังไว้ในใจ
สิ่งนั้นก้าวไกลถึงไหนแล้ว
…ทุกชีวิตย่อมมีจุดหมาย
อย่าปล่อยให้ผ่านไปโดยไร้ค่า
อย่าปล่อยวันเวลาให้สูญเปล่า
ชีวิตเรานั้นควรจะมีเป้าหมาย
ฝันนั้นอาจจะตั้งไว้ไม่ไกล
แต่เรานั้นต้องเดินไปให้ถึง
ทำซึ่งความฝันนั้นให้เป็นจริง
ไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินจะกระทำ
…หนทางสู่ความสำเร็จนั้น
อาจจะยังอยู่อีกยาวไกล
แต่จงอย่าได้หวั่นไหวท้อใจ
ขอเรามีความตั้งใจที่มั่นคง
เดินในเส้นทางที่ตรงสู่ความฝัน
ระยะทางสู่ความสำเร็จนั้น
มันย่อมสั้นลงมาทุกขณะ
อย่าไปสนใจในระยะของเส้นทาง
…ทุกอย่างย่อมจะมีความสำเร็จได้ ถ้าหากเรานั้นมีความตั้งใจและพยายามเดินตามความฝันของเรานั้นต่อไปไม่ท้อถอยหรือหวั่นไหวกับอุปสรรคปัญหามีความศรัทธาและเชื่อมั่นในความดีที่กระทำสิ่งนั้นย่อมจะนำไปสู่ความสำเร็จของชีวิตในสิ่งที่ตนคิดและกิจที่ตนนั้นปรารถนาเพราะว่าความสำเร็จของชีวิต…อยู่ที่จิตคิดว่าพอ…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๕…