…บันทึกธรรมย้ำเตือนตน…
…อดีตคือความทรงจำ ปัจจุบันคือความเป็นจริง อนาคตคือความฝันและจินตนาการ คือคำพูดและโวหารในเชิงกวีที่กล่าวกันมาแต่ในความเป็นจริง
…จงทำจิตให้หยุดนิ่งแล้วขจัดสิ่งที่เป็นขยะของอารมณ์ออกไปคงเหลือไว้แต่สิ่งที่ดีมีสาระมีประโยชน์ไม่เป็นทุกข์ เป็นภัยเป็นโทษต่อกุศลทั้งหลายเพื่อให้มีความเจริญในธรรมรุดหน้ายิ่งๆขึ้นไป
…มองดูโลกที่สับสนวุ่นวายให้คล้ายดูหนังดูละคร ทุกบททุกตอนล้วนแล้วแต่มายาที่ถูกกำหนดมาด้วยกฎแห่งกรรมพยายามทำจิตใจให้อยู่เหนือโลกธรรม ๘ ทวนกระแสแห่งโลกมายา แล้วเราจะพ้นจากความทุกข์ความเศร้าความโศกจากโลกมายานี้ได้…
…ทุกชีวิตย่อมมีจุดหมายอย่าปล่อยให้ผ่านไปโดยไร้ค่าอย่าปล่อยวันเวลาให้สูญเปล่าชีวิตเรานั้นควรจะมีเป้าหมายฝันนั้นอาจจะตั้งไว้ไม่ไกลแต่เรานั้นต้องเดินไปให้ถึงทำซึ่งความฝันนั้นให้เป็นจริงไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินจะกระทำ
…หนทางสู่ความสำเร็จนั้นอาจจะยังอยู่อีกยาวไกลแต่จงอย่าได้หวั่นไหวท้อใจขอเรามีความตั้งใจที่มั่นคงเดินในเส้นทางที่ตรงสู่ความฝันระยะทางสู่ความสำเร็จนั้นมันย่อมสั้นลงมาทุกขณะอย่าไปสนใจในระยะของเส้นทาง
…ทุกอย่างย่อมจะมีความสำเร็จได้ถ้าหากเรานั้นมีความตั้งใจและพยายามเดินตามความฝันของเรานั้นต่อไปไม่ท้อถอยหรือหวั่นไหวกับอุปสรรคปัญหามีความศรัทธาและเชื่อมั่นในความดีที่กระทำสิ่งนั้นย่อมจะนำไปสู่ความสำเร็จของชีวิตในสิ่งที่ตนคิดและกิจที่ตนนั้นปรารถนาเพราะว่าความสำเร็จของชีวิต
…อยู่ที่จิตคิดว่าพอ…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ-สมณะไร้นาม…
…๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๕…