เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๓๒

…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๓๒…

…ชีวิตในแต่ละวันที่ผ่านมา ทำหน้าที่ไปตามบทบาทที่รับผิดชอบ สงเคราะห์ทั้งทางโลกและทางธรรม ทำเต็มที่ตามกำลังความรู้ความสามารถที่มีอยู่ ทำตามที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนไว้ว่า การทำงานคือการปฏิบัติธรรม

…การมีสติสัมปชัญญะ การระลึกรู้และการรู้ตัวทั่วพร้อม เรียกว่าทำความเพียร ไม่จำเป็นว่าต้องนั่งสมาธิ เดินจงกรมจึงจะเรียกว่าทำความเพียร ถ้าไม่มีสติรู้ตัว ฟุ้งซ่านไป คิดไปเรื่อย ก็ไม่เรียกว่าทำความเพียร ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถใด จะยืน เดิน นั่ง นอน ถ้าเรามีสติสัมปชัญญะการระลึกรู้และรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่ในขณะนั้น จึงเรียกว่าเรากำลังปฏิบัติธรรมได้ทำความเพียรอยู่…

…บทเพลงแห่งพงไพร…

๐ โบยบินสู่โลกกว้าง
บนเส้นทางแสวงหา
เพียงเพื่อให้ได้มา
ประทังชีพสืบเผ่าพันธุ์

๐ รวงรังที่ตั้งอยู่
ยังมีผู้เฝ้ารอฝัน
อาหารมาแบ่งปัน
ผู้อยู่หลังตั้งตารอ

๐ แม่นกและพ่อนก
ต่างป้องปกไม่ย่อท้อ
ความฝันวันที่รอ
ชีวิตน้อยเจริญวัย

๐ ปีกกล้าและขาแข็ง
มีเรี่ยวแรงชีวิตใหม่
สืบทอดเผ่าพันธุ์ไป
อยู่คู่ไพรคู่พนา

๐ ชีวิตของนกน้อย
ที่เฝ้าคอยวันเวลา
เติบโตและแกร่งกล้า
ด้วยสองปีกของตนเอง

๐ บทเพลงแห่งพงไพร
ดำเนินไปให้ครื้นเครง
สร้างสรรค์ขับบรรเลง
กล่อมพงไพรให้งดงาม…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒ เมษายน ๒๕๖๕…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *