…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๕๒…
“คนเราควรมองผู้มีปัญญาใด ๆ ที่คอยชี้โทษและกล่าวคำขนาบอยู่เสมอไปว่าผู้นั้นแหละ คือผู้ชี้ขุมทรัพย์ละควรคบหาบัณฑิตที่เป็นเช่นนั้นเพราะเมื่อคบหากับบัณฑิตเช่นนั้นอยู่ย่อมมีแต่คุณอันประเสริฐส่วนเดียวไม่มีเสื่อมเลย”
“นิธีนํว ปวตฺตารํ ยํ ปสฺเส วชฺชทสฺสินํ
นิคฺคยฺหวาทึ เมธาวี ตาทิสํ ปณฺฑิตํ ภเช
ตาทิสํ ภชมานสฺส เสยฺโย โหติ น ปาปิโย”
…พุทธสุภาษิต ธรรมบท ๒๕/๒๑…
…ศรัทธาในพระรัตนตรัย ศรัทธาในกุศลความดีทั้งหลาย คือพื้นฐานที่ดีของนักปฏิบัติธรรมและผู้สนใจในธรรมทั้งหลายที่จะน้อมนำไปสู่คุณธรรมอันยิ่งใหญ่ในโอกาสต่อไป…
๐ สัญจร ร่อนเร่มา
ผ่านร้อยป่า และภูดอย
ฝึกฝน ทนรอคอย
ไม่ท้อถอย ความหมั่นเพียร
๐ ฝึกฝน สมถะ
ลดมานะ ที่เบียดเบียน
บันทึก และขีดเขียน
เป็นบทเรียน สำหรับตน
๐ เตือนตน เตือนสติ
ลดทิฏฐิ ลดกังวล
ค้นหา ซึ่งเหตุผล
หาตัวตน ที่เกิดมา
๐ ลองถูก และลองผิด
ก็ด้วยจิต แสวงหา
เจริญ ภาวนา
ตามตำรา ที่เล่าเรียน
๐ กรรมฐาน ทั้งสี่สิบ
ก็ได้หยิบ มาพากเพียร
เอามา เป็นบทเรียน
สลับเปลี่ยน ทำทุกกอง
๐ รู้กาย และรู้จิต
รู้ถูกผิด ด้วยทดลอง
มีธรรม นั้นคุ้มครอง
ไม่เศร้าหมอง ครองจิตดี
๐ ให้จิต เป็นกุศ
คุ้มครองตน ไปทุกที่
กายดี และจิตดี
ก็ไม่มี สิ่งกังวล
๐ รักษา ธรรมวินัย
ให้เป็นไป ตามเหตุผล
สงเคราะห์ ต่อชุมชน
ช่วยเหลือคน ตามเหตุการณ์
๐ เรียนรู้ ในทุกศาสตร์
ไม่ประมาท จนชำนาญ
เพราะคิด ว่าคืองาน
นั้นเป็นการ ประพฤติธรรม
๐ ทำงาน ทุกชนิด
ทำด้วยจิต สตินำ
ธรรมะ ก็คือทำ
ที่น้อมนำ กุศลมา
๐ อย่าเคร่ง มันจะเครียด
เป็นการเบียด เบียนกายา
เคร่งไป ไม่ก้าวหน้า
เพราะจะพา ให้หลงทาง
๐ หย่อนไป ก็ไม่ดี
เพราะมันมี ซึ่งแบบอย่าง
จงเดิน ในสายกลาง
ทำทุกอย่าง ให้พอดี…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๒ เมษายน ๒๕๖๕…