เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๕๖

…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๕๖…

…จงพิจารณาให้เห็นทุกข์ เห็นโทษ เห็นภัยของอารมณ์ปฏิฆะ ความขุ่นใจ ความโกรธด้วยฝึกจิต ให้มีสติสัมปชัญญะอยู่ตลอดเวลาไม่ให้ความโกรธเข้ามาครอบงำและตั้งอยู่ได้นาน ให้เพียงผ่านเข้ามาแล้วดับไปโดยใช้เวลาไม่นาน “กิเลสที่จรมายังจิตนี้ให้เศร้าหมอง” เพราะเราไปรับเอาอารมณ์ของผู้อื่นที่มากระทบจิตเรา แล้วเราเข้าไปส้องเสพปรุงแต่งในอารมณ์เหล่านั้นมันก็จะทำให้เราทุกข์กายทุกข์ใจ เพราะจิตของเราไปยึดติดอยู่กับอารมณ์เหล่านั้นและให้มันมีอำนาจมาครอบงำจิตเราให้เผลอสติคล้อยตามมัน…

…ชีวิต ของทุก คนนั้น
จัดสรร ตามเหตุ และผล
ชีวิต ของทุก ทุกคน
ไม่พ้น จากทุกข์ ทั่วกัน

…ความทุกข์ เกิดจาก ตัณหา
เพราะว่า ความอยาก ทั้งนั้น
อยากมี อยากได้ ให้มัน
ใจนั้น อยากให้ มันเป็น

…เป็นไป ตามใจ ที่คิด
ยึดติด ในความ คิดเห็น
อยากมี อยากได้ อยากเป็น
รู้เห็น เพียงแต่ ฝ่ายตน

…ไม่ยอม แบ่งปัน สละ
ลดละ ตามเหตุ และผล
ยึดถือ ประโยชน์ ส่วนตน
หวังผล กำไร ฝ่ายตัว

…เมื่อผล ไม่เป็น ดั่งคิด
มันผิด แตกต่าง กันทั่ว
โมหะ ความหลง เมามัว
ก่อตัว เป็นทุกข์ ในใจ

…ทุกข์เพราะ เข้าไป ยึดถือ
นั้นคือ สิ่งควร แก้ไข
ลดละ ปล่อยวาง ลงไป
ทำใจ ยอมรับ ความจริง

…ทุกอย่าง ย่อมมี เกิดดับ
สลับ กันไป ไม่นิ่ง
เรียนรู้ ยอมรับ ความจริง
ทุกสิ่ง มีเหตุ ปัจจัย

…อย่าไป โทษดิน โทษฟ้า
ควรหา แนวทาง แก้ไข
ทุกอย่าง ที่ดำ เนินไป
อยู่ใต้ กำหนด กฎกรรม

…มีเหตุ และผล รองรับ
เกิดดับ กันอยู่ ซ้ำซ้ำ
เกิดการ ย้ำคิด ย้ำทำ
คือกรรม ที่ส่ง ผลมา

…กรรมนั้น ย่อมเกิด จากเหตุ
สังเกต วิเคราะห์ ศึกษา
ให้เห็น ที่ไป ที่มา
ปัญหา แก้ไข ได้จริง

…วางจิต วางใจ เป็นกลาง
ปล่อยวาง ทำจิต ให้นิ่ง
ยอมรับ ในความ เป็นจริง
ทุกสิ่ง คือกฎ แห่งกรรม

…กรรมคือ ที่ก่อ กำเนิด
เหตุเกิด จากการ กระทำ
บาปบุญ กุศล หนุนนำ
กงกรรม คล้ายดั่ง กงเกวียน…

…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๒๖ เมษายน ๒๕๖๕…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *