…เรียงร้อยธรรมไปตามกาล บทที่ ๖๖…
…“ภิกษุทั้งหลาย!เราประพฤติพรหมจรรย์นี้มิใช่เพื่อหลอกลวงคน เพื่อให้คนบ่นถึงเพื่อผลคือลาภสักการะและชื่อเสียงเพื่อเป็นเจ้าลัทธิ เพื่อให้คนทั้งหลายรู้จักเรา ก็หามิได้ แต่ที่แท้จริงแล้วเราประพฤติพรหมจรรย์นี้เพื่อความสังวรระวัง เพื่อละกิเลสเพื่อคลายกิเลส และเพื่อดับกิเลสเท่านั้น”
…“นยิทํ ภิกขเว พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ
ชนกุหนตฺถํ น ชนลปนตฺถํ
น ลาภสกฺการสิโลกานิสํสตฺถํ
น อิติวาทปฺปโมกฺขานิสํสตฺถํ
น อิติ มํ ชโน ชานาตูติ
อถโข อิทํ ภิกฺขเว พฺรหฺมจริยํ วุสฺสติ
สํวรตฺถํ ปหานตฺถํ วิราคตฺถํ นิโรธตฺถนฺติ”…
…พุทธสุภาษิต พรหมจริยสูตร ๒๑/๒๙…
…พอดี พอเพียง พอใจ…
๐ มากมาย หลายหลาก เรื่องราว
ข่าวคราว ทำให้ สับสน
เกิดจาก กิเลส ของคน
สับสน ไม่รู้ จักพอ
๐ ไม่มี ก็อยาก จะได้
อยากให้ มันมี ขึ้นต่อ
เพราะใจ ไม่รู้ เพียงพอ
จึงก่อ เกิดความ วุ่นวาย
๐ กิเลส นั้นเกิด ที่จิต
ความคิด ที่มี หลากหลาย
ความอยาก ที่มี มากมาย
ขวนขวาย เพื่อให้ ได้มา
๐ สนอง ความอยาก ตนเอง
ไม่เกรง และกลัว บาปหนา
ทำไป เพื่อให้ ได้มา
ตัณหา ความอยาก มากมี
๐ ความสุข และความ สำเร็จ
เบ็ดเสร็จ อยู่ที่ จิตนี้
ถ้าจิต พอเพียง ตามมี
เท่านี้ มันก็ สุขใจ
๐ จิตนั้น คิดว่า เพียงพอ
ไม่ก่อ ความอยาก ขึ้นใหม่
พอดี พอเพียง ที่ใจ
สุขได้ ถ้าใจ นั้นพอ
๐ ไม่ต้อง ดิ้นรน ขวนขวาย
สบาย ที่ใจ นั้นหนอ
พบสุข โดยไม่ ต้องรอ
ใจพอ มันก็ พอดี
๐ พอดี พอใจ ในตน
ทุกคน จะพบ สิ่งนี้
เพียงพอ ในสิ่ง ที่มี
เท่านี้ มันก็ พอใจ…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๖ พฤษภาคม ๒๕๖๕…