…รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๗๑…
…พิจารณาทำความรู้ความเข้าใจในทุกสรรพสิ่ง ในความเป็นจริงของชีวิต คิดพิจารณาทุกอย่างเข้าหาหลักธรรม มองให้เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ประสพพบเห็นนั้น “มันเป็นเช่นนั้นเอง”
…เมื่อเข้าใจทุกอย่างก็จบ มันมีคำตอบอยู่ในตัวของตัวมันเองไม่ต้องไปสงสัย ไม่ต้องไปกังวลไม่ต้องไปค้นหา เพราะว่า “ตถตามันเป็นเช่นนั้นของมันเอง”
…เพราะทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายเรามันเป็นเช่นนั้นเอง พยายามคิดถึงสิ่งที่เป็นกุศล ฝึกตนด้วยการเจริญสติตั้งอยู่ในพรหมวิหาร ๔ อันมี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เป็นหลักที่พักจิต ปรับความคิดให้มองโลกในแง่ดี พิจารณาให้เห็นถึงคุณถึงโทษ ถึงประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ในทุกๆสิ่ง เห็นความเป็นจริงของกฎแห่งธรรมชาติซึ่งเป็นกฎของพระไตรลักษณ์คือความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาการเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป
…โดยใช้หลักธรรมในอริยสัจ ๔ มาประกอบในการคิดและพิจารณา สิ่งที่มากระทบทั้งหลายล้วนเป็นเหตุแห่งทุกข์ ค้นหาซึ่งเหตุที่มาแห่งทุกข์นั้นจนเห็นที่เกิดแห่งทุกข์ พิจารณาให้เห็นการดับไปแห่งทุกนั้น เมื่อรู้เห็นและเข้าใจในเหตุและปัจจัยที่ทำให้เกิดทุกข์ พิจารณาหาหนทางที่จะดับซึ่งเหตุและปัจจัยแห่งทุกข์ทั้งหลายนั้นให้เป็นสมุทเฉจคือการดับเหตุและปัจจัยตัดวงจรแห่งทุกข์นั้น แล้วน้อมนำเอาสิ่งที่ได้คิดพิจารณา ได้รู้ ได้เห็น ได้เข้าใจมาลงมือปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม การดับทุกข์ย่อมบังเกิดขึ้น จิตจะเข้าถึงซึ่งความสงบเมื่อจิตนั้นพบกับธรรม…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจ – สมณะไร้นาม…
…๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๕…