…รำพึงธรรมตามรายทาง บทที่ ๒๒…
…บางครั้งการที่เรามองอะไรด้านเดียวโดยเอาความรู้สึกของเรามาเป็นตัวตัดสินใจนั้น ก็อาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นมาได้ เราควรมองอะไร ๆ ให้รอบด้าน ใช้วิจารณญาณเหตุและผล ในการตัดสินใจที่จะทำอะไรลงไป ทำให้คิดถึงคำสอนของสมเด็จโตขึ้นมา เรื่อง “กระจกหกด้าน” ที่สอนให้เราเปิดกว้างทางความคิดมองอะไรให้มันละเอียด มองให้เห็นทุกแง่มุมของความเป็นจริง…
…จงเป็นผู้ให้ อย่าเป็นเพียงผู้ขอ…
๐ ความอ่อนน้อม ถ่อมตน คนจึงชอบ
และประกอบ เมตตา มาประสาน
ไม่เย่อหยิ่ง ถือตน จนเสียการ
จงร่วมงาน ทำไป ด้วยใจเรา
๐ ผูกไมตรี สร้างมิตร ผูกจิตไว้
มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือเขา
และจงเป็น ผู้ให้ อย่าหวังเอา
ช่วยแบ่งเบา ช่วยเขา อย่างเต็มใจ
๐ อ่อนเมื่อพบ ลมแรง อย่าแข็งขืน
น้อมแล้วยืน ขึ้นสู้ สู่สิ่งใหม่
ถ่อมลงหา ผู้คน อย่างเต็มใจ
คือการให้ ความหมาย ต่อผู้คน
๐ สร้างประโยชน์ แก่ตน และคนอื่น
ปลุกให้ตื่น ขึ้นมา หาเหตุผล
เพื่อให้เป็น ประโยชน์ท่าน ประโยชน์ตน
ให้ทุกคน นั้นได้รับ โดยทั่วกัน
๐ การถือตัว ถือตน คนไม่ชอบ
เพราะประกอบ ด้วยทิฐิ คนหยามหยัน
ไม่ได้สร้าง ไมตรี มิตรสัมพันธ์
อยู่ร่วมกัน ควรรัก สามัคคี
๐ หมั่นประชุม ร่วมกัน ให้เนื่องนิจ
ร่วมทำกิจ กันไป ในทุกที่
ร่วมสรรค์สร้าง เส้นทาง สู่ความดี
ร่วมสร้างมิตร ไมตรี ดีต่อกัน
๐ สิ่งที่จะ ผูกใจ ในหมู่มิตร
คือรวมจิต รวมใจ สมานฉันท์
มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือกัน
การแบ่งปัน การให้ ได้ใจคน
๐ อย่าได้เพียง ร้องขอ ต่อผู้อื่น
จงหยิบยื่น ช่วยเขา ยามขัดสน
ให้บรรเทา จากทุกข์ ทั่วทุกคน
ประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน พึงกระทำ…
…ปรารถนาดีด้วยไมตรีจิต…
…รวี สัจจะ – สมณะไร้นาม…
…๑ เมษายน ๒๕๖๕…